วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

“Libra” จาก Facebook คือเหตุผลที่จีนต้องสร้าง “หยวนดิจิตอล” หรือไม่?

“Libra” จาก Facebook คือเหตุผลที่จีนต้องสร้าง “หยวนดิจิตอล” หรือไม่?
พฤษภาคม 11, 2020

ในขณะที่โลกกำลังเฝ้ารอ halving ย้อนไปไม่กี่วันที่ผ่านมา จีนปล่อยข้อมูลออกมาอีกเล็กน้อยเกี่ยวกับ “หยวนดิจิตอล” (digital yuan) ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันนั้น Libra ก็ได้เปิดเผยสิ่งที่น่าสนใจเช่นกัน
Li Lihui อดีตประธานธนาคารแห่งประเทศจีนซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้ากลุ่มวิจัย blockchain ที่ National Internet Finance Association of China ในพูดถึงหัวข้อ “สกุลเงินดิจิตอล: กับความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างระบบการเงินโลก” (数字货币: 可能重构全球货币体系)
ในการพูดคุย Li ได้พูดถึง Libra ว่าเหตุใดประเทศจีนให้ความสนใจกับ Libra มาก

แฟนบอยของ Libra

Li เริ่มพูดถึง Libra ว่ามันเป็น “สกุลเงินดิจิตอลที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐ” เนื่องจากมันไม่ได้สร้างขึ้นจากประเทศใด แต่มาจากองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือ โดยออกแบบมาเพื่อแทนที่ตัวกลางทางการเงินที่มีอยู่เดิม เช่น ธนาคารพาณิชย์และแม้แต่ธนาคารกลาง
Li พูดอย่างกระตือรือร้นเกี่ยวกับ white paper ตัวล่าสุดของ Libra โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเห็นพ้องว่า Libra สร้างมาเพื่อลดการครอบงำของสกุลเงินดอลลาร์ และ “มาตรฐานทางการเงิน”
“2019 Libra นั้นยังใหม่เกินไป แต่ตอนนี้มันดูเหมือนพิมพ์เขียวที่พร้อมใช้งานแล้ว”
เป็นเรื่องน่าขันที่ Libra ต้องดิ้นรนเพื่อขออนุมัติในสหรัฐอเมริกา ทั้ง ๆ ที่มันดูเหมือนเป็นอาวุธที่ดีที่สุดของอเมริกาในการควบคุมการเงินทั่วโลก แต่อย่างไรก็แล้วแต่ เบื้องหลังการกล่าวชมของ Li คือความกลัวที่เพิ่มขึ้นของจีนที่ว่ Libra จะกลายเป็นคู่แข่งหลักในด้านเงินดิจิทัล แม้ทั้งสองจะมีความแตกต่างด้านการออกแบบก็ตาม
ประเทศจีนต้องการให้ DCEP ถูกใช้ในระดับสากลสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดน รวมทั้งลดการใช้เงินกระดาษภายในประเทศ ลดการฉ้อโกงและสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย แต่สิ่งที่แท้จริงในการสร้างนั้นก็คือการแทนที่เงินดอลลาร์

Libra VS หยวนดิจิตอล

เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินของ Libra ที่มีการออกแบบให้รองรับ Stablecoin ที่หลากหลาย ส่วน หยวนดิจิตอล หรือ DCEP คือ digital cash ที่มีจุดมุ่งหมายที่จะกำจัดเงินกระดาษ ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับและการใช้งานที่ง่าย และทำทุกอย่างโดยไม่ส่งผลเสียต่อระบบการเงินของจีน
เป้าหมายของ DCEP ที่สำคัญที่สุดคือกำจัดเงินกระดาษ ในขณะที่ Libra ปรารถนาที่จะเป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่เรียกว่า “Digital Programmable Currencies”
แม้จะมีความแตกต่างในการออกแบบ แต่ทั้งสองก็ออกมาประณามกันและกันในฐานะที่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศของพวกเขา ซึ่ง Mark Zuckerberg เคยกล่าวว่า หากสหรัฐฯไม่สามารถสร้างสกุลเงินดิจิทัลได้ หยวนดิจิทัลของจีนจะเข้ามาแทนเงินดอลลาร์และสกุลเงินของโลก
ซึ่งปัจจุบัน เงินหยวนของจีนคิดเป็นเพียง 2% ของการชำระเงินระหว่างประเทศ ในขณะที่ธุรกรรมเกือบ 90% ของธุรกรรมระหว่างประเทศอยู่ในรูปของดอลลาร์สหรัฐ  

ใครจะชนะ

เงินดอลล่าร์ก็เป็นส่วนหนึ่งของ Libra ซึ่งหากมันประสบความสำเร็จ และสามารถเชื่อมต่อกับธนาคารพาณิชย์ได้สำเร็จ จะเป็นการยับยั้งการใช้เงินหยวนของจีนนอกประเทศจีนอย่างมีนัยสำคัญ  และสิ่งที่เป็นฝันร้ายที่เลวร้ายที่สุดสำหรับจีนคือหาก Libra ประสบความสำเร็จโดยไม่ได้มีการรวมเงินหยวนอยู่ในตะกร้าสกุลเงิน มันจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการทำให้เงินหยวนเป็นสากลอย่างมาก
อันที่จริงความเป็นสากลของเงินหยวนนั้นก็อยู่ใน DCEP ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่นในระหว่างการพูดคุยของ Li เขาเน้นว่า “จีนควรศึกษาแผนการดำเนินงานสกุลเงินดิจิทัลทั้งที่นำโดยจีนและต่างประเทศ , แผนการใช้สกุลเงินดิจิทัล เพื่อการผลักดันให้มันกลายเป็นระดับสากล
คำว่า “นำโดยจีน” เป็นกุญแจสำคัญ ประเทศจีนต้องการเป็นผู้นำของสกุลเงินดิจิทัล ซึ่ง DCEP สามารถนำไปใช้ในโครงการ “เส้นทางสายไหม” ของจีน การโครงสร้างพื้นฐานในแอฟริกาและการช่วยเหลือจากต่างประเทศแก่ประเทศกำลังพัฒนา ดังนั้นจีนกำลังพยายามใช้หยวนดิจิทัลเพื่อสร้างบรรทัดฐานสากลใหม่ที่เขียนโดยจีน
อย่างไรก็ตาม การสร้างบรรทัดฐานระดับโลกใหม่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในข้ามคืน ในช่วงของ Q&A Li ถูกถามว่า DCEP จะทำงานในลักษณะข้ามพรมแดนได้อย่างไร เขากล่าวว่าจีนยังไม่มีการเผยรายละเอียดในส่วนนี้ แต่ถ้ามันเป็นสกุลเงิน “มันก็ต้องใช้ทำธุรกรรมข้ามพรมแดนได้”
ข้อมูลเล็กน้อยที่เปิดเผยออกมา เป็นสัญญาณว่าการแข่งขันสกุลเงินดิจิทัลยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ยังไม่มีฝ่ายใดรู้วิธีที่การเอาชนะการแข่งขันนี้  แต่ทั้งสองฝ่ายก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะก้าวนำไปข้างหน้าและยึดส่วนแบ่งการตลาดไปทั้งหมด 
แต่จะมีผู้ชนะเพียงคนเดียวหรือไม่  ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ประการหนึ่งก็คือ DCEP ของจีนเป็นผู้ครอบครองธุรกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับจีน ในขณะที่ Libra ก็เจาะตลาดอื่นไป

สรุป

จนถึงตอนนี้ ด้วยอำนาจการปกครองของจีน ทำให้ DCEP เริ่มต้นได้ไม่ยากหรือการประชาสัมพันธ์ เนื่องจาก blockchain ก็ได้รับการประกาศให้เป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีแห่งชาติ  (และประชาชนในประเทศจีนก็ให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานอย่างจริงจัง)
ในทางกลับกัน Libra ยังต้องอัปเกรด white paper และปรับเปลี่ยนการออกแบบให้เป็นไปตามมาตรฐานต่อไป  แม้ว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสองจะมีความแตกต่างมากกว่าคล้ายกัน แต่ผลิตภัณฑ์ทั้งสองก็ยังต้องระวังซึ่งกันและกัน และยังต้องสร้างเรื่องราวใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ของตนเองต่อไป