วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

“หยวนดิจิทัล” ตอนที่ 2 : เจาะลึกผลกระทบในประเทศจีน


“หยวนดิจิทัล” ตอนที่ 2 เจาะลึกผลกระทบในประเทศจีน
08.05.2020 บทวิเคราะห์โดย THINK FUTURE

ในตอนที่แล้วเราได้เล่าถึง “หยวนดิจิทัล” และผลกระทบของมันกับการเงินทั่วโลกไปแล้ว ในตอนนี้เราจะมาโฟกัสถึงความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นภายในประเทศจีนกันครับ
## เกิดอะไรขึ้น ##
จีนกำลังจะเป็นประเทศแรกของโลกที่ออกเงินดิจิทัลของชาติบนบล็อคเชน คนจีนทุกคนจะต้องเปลี่ยนมาใช้เงินดิจิทัลตัวนี้ !?
## หมายความว่าอย่างไร? ##
ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้สร้างสกุลเงินดิจิทัลก็คือเรื่องของการนำไปใช้อย่างจริงจังของผู้บริโภค (Adoption Problem) ซึ่งแม้แต่คริปโตเคอเรนซีที่คนให้การยอมรับสูงสุดอย่าง Bitcoin หรือสกุลเงินดิจิทัลสกุลใหม่เป็นร้อยเป็นพันสกุล ก็ยังไม่มีสกุลไหนที่ได้การยอมรับจากคนหมู่มากเลย (Mass Adoption)
แน่นอนว่ากฏหมายคืออุปสรรคใหญ่ เพราะมันขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลอนุญาติให้ใช้แทนเงินจริงๆได้ไหม ที่ผ่านมารัฐบาลหรือแบงค์ชาติหลายๆประเทศต้องออกมาเบรคหรือกระทั้งแบนคริปโตเคอเรนซีในประเทศตัวเองเพราะกลัวว่าสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้จะกระทบต่ออำนาจอธิปไตยทางการเงิน (เช่น Libra!) แต่ในเคสของหยวนดิจิทัลปัญหาสองอย่างนี้ถูกตีตกไปอย่างง่ายได้เพราะเงินดิจิทัลนี้ถูกทำโดยรัฐบาลเอง รัฐบาลจีนสามารถบังคับให้ทุกคนในประเทศเปลี่ยนมาใช้หยวนดิจิทัลเลยก็ยังได้
ทำไมการเปลี่ยนจากเงินกระดาษหรือเงินดิจิทัลของ Alipay และ Wechat Pay มาเป็นเงินดิจิทัลแห่งชาติมันถึงได้เป็นเรื่องใหญ่? แม้ว่าตอนนี้มันยังไม่เป็นที่แน่นอนว่าหยวนดิจิทัลจะมีการใช้งานอย่างไร แต่จากรูปและข้อมูลที่มีปล่อยออกมาบ้างแล้วหยวนดิจิทัลนะจะถูกใช้ผ่าน QR Code และรองรับ NFC (แตะมือถือเพื่อจ่ายตัง) ซึ่งมันไม่ได้แตกต่างจากสิ่งที่แอป Mobile Payment ในปัจจุบันมีแล้วเลย แต่สิ่งที่แตกต่างคือระบบ Money Settlement ข้างหลังต่างหาก “หยวนดิจิทัลคือการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินครั้งสำคัญของจีน”
ในปัจจุบันแต่ละธนาคารและแต่ละองค์กรก็จะมีระบบของตัวเอง ซึ่งแทนที่จะปล่อยให้เอกชนเป็นคนดูแลฐานข้อมูลการเงินและรับความเสี่ยงหากเกินความผิดพลาดทางข้อมูล รัฐบาลจึงเลือกที่จะเป็นเจ้าภาพ สร้างฐานข้อมูลกลางที่ให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดเก็บแทน ข้อมูลอะไรก็ตามที่ถูกบันทึกบนระบบ จะสามารถตรวจสอบได้ถึงความถูกต้องและที่มาของข้อมูลนั้นๆโดยทุกๆฝ่าย นอกจากนี้การที่องค์กรไหนคิดจะโกงระบบหรือแก้ฐานข้อมูลก็ทำไม่ได้อีกต่อไป ทั้งนี้เพื่อตัดขั้นตอนความซับซ้อนในการดำเนินการ ลดความเสี่ยง เพิ่มความโปร่งใส เพิ่มประสิทธิภาพในการเคลื่อนย้ายเงิน (ขอบคุณเทคโนโลยี Distributed Ledger / Blockchain)
อย่างไรก็ตามข้อดีที่ได้มาจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของประเทศนั้นจะถูกแลกมาด้วยความเป็นส่วนตัวของประชาชนชาวจีนทุกคน (จากเดิมที่มีน้อยมากอยู่แล้วด้วยนะ) การใช้ระบบการเงินหยวนดิจิทัลจะทำให้รัฐบาลจีนเหมือนมีตาทิพย์ สามารถสอดส่องทุกอย่างภายในประเทศได้อย่างทะลปรุโปร่งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นั้นก็เพราะตอนนี้รัฐบาลสามารถรู้เส้นทางการเงินของคนทั้งประเทศได้แล้ว ถ้าจะพูดให้เห็นภาพถ้าเราถอนเงินสดออกมาจาก ATM มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆที่จะตามต่อว่าเราเอาเงินนี้ไปทำอะไรในระบบการเงินในปัจจุบัน การติดตามเส้นทางการเงินของคนทั้งประเทศได้จึงเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก จีนน่าจะเป็นประเทศแรกในโลกและในประวัติศาสตร์ที่ทำสิ่งนี้ได้
## มีผลกระทบอย่างไร? ##
สำหรับรัฐบาลจีน: การทำเงินดิจิทัลเป็นของตัวเองนั้นมีประโยชน์หลายอย่าง
1. ประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานการทางการเงิน จีนจะไม่ต้องพึ่งพาระบบการเงินต่างประเทศ ไม่ต้องพิมพ์ธนบัตร ไม่ต้องจ่ายเงินค่าขนย้ายธนบัตร ไม่ต้องเจอปัญหาจากการที่ระบบการเงินหลายๆระบบไม่ Sync กัน
2. ติดตามธุรกรรมของคนในประเทศได้ทั้งหมด เนื่องจากธุรกรรมทุกอย่างถูกบันทึกอยู่บนบล็อคเชน ดังนั้นรัฐบาลจะรู้ทุกความเคลื่อนไหวของเงิน หากมีธุรกรรมไหนที่น่าสงสัยรัฐบาลสามารถตรวจสอบได้จนไปถึงต้นตอของสาเหตุเลยทีเดียว
3. รัฐบาลจะรู้จักประชาชนมากกว่าที่พวกเขารู้จักตัวเองเสียอีก นั้นก็เพราะรัฐบาลรู้ถึงการเคลื่อนไหวของเงินที่เข้าออกบัญชีของประชาชน ใครได้เงินเท่าไหร่ เหลือเงินเท่าไหร่ในบัญชี ซื้ออะไรไปเท่าไหร่ ชอบซื้ออะไร แต่ที่น่ากลัวนั้นก็คือถ้าคนต่างประเทศเริ่มใช้หยวนดิจิทัลตัวนี้ในการซื้อขายของเมื่อไหร่ จีนก็จะรู้ถึงพฤติกรรมของคนและการเคลื่อนที่ของเงินในประเทศนั้นๆด้วย
4. รัฐบาลจะสามารถเก็บภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยใครซุกอะไรไว้ที่ไหนรู้หมดเพราะทุกอย่างนั้นถูกบันทึกไว้บนบล็อคเชน
5. รัฐจะมีข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ละเอียดและแม่นยำมากขึ้น (มากๆๆๆ) ทำให้การบริหารจัดการนโยบายทางเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น
6.การดำเนินนโยบายทางการเงินที่เห็นผลทันที ยกตัวอย่างเช่นรัฐบาลต้องการดำเนินนโยบายจ่ายเงินช่วยเหลือ Covid ก็สามารถตรวจสอบบัญชีแต่ละบัญชีได้เลยว่าใครเข้าเกณฑ์บ้าง ไม่ต้องมีการมากรอกฟอร์มให้ยุ่งยาก จากนั้นก็ส่งเงินตรงเข้าสู่บัญชีของผู้เดือดร้อน หลังจากนั้นรัฐบาลยังสามารถเช็คต่อได้ด้วยว่าคนเหล่านี้เอาเงินไปใช้ทำอะไร ถ้าคนไหนแอบสวมสิทธิเข้ามาก็จะตายตรงนี้แหละ
สำหรับธนาคารพาณิชย์จีน: ในระยะสั้นธนาคารพาณิชย์จีนน่าจะได้รับผลประโยชน์จากหยวนดิจิทัลในด้านการชำระหนี้ระหว่างธนาคาร การชำระหนี้ระหว่างธนาคารโดยไม่ใช้เงินจริงจะลดค่าใช้จ่ายได้จำนวนมหาศาลเพราะธนาคารไม่ต้องจ่ายค่าขนเงินและค่ารักษาความปลอดภัยของเงิน
อย่างไรก็ตามในทางทฤษฎีแล้วหยวนดิจิทัลน่าจะลดบทบาทของธนาคารไปพอสมควรเพราะคนสามารถเก็บเงินไว้กับตัวเองได้ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องไปฝากเงินไว้กับธนาคาร (เงินถูกบันทึกไว้บนระบบของหยวนดิจิทัล) แต่รัฐบาลจีนไม่น่าจะลดบทบาทของธนาคารอย่างฉับพลันเนื่องจากประชาชนอาจจะปรับตัวไม่ทัน ในช่วงทดสอบของหยวนดิจิทัลเองจึงมีธนาคารของรัฐรวมอยู่ด้วย รูปของแอปหยวนดิจิทัลที่เราเห็นในอินเตอร์เน็ตก็เป็นแอปของธนาคาร Think Future คิดว่าจีนคงจะทำการทดลองไปเรื่อยๆและค่อยปรับหาโมเดลที่เหมาะสมกับประเทศตัวเองมากที่สุด
สำหรับ Payment App: Alipay และ Wechat Pay: สองผู้นำตลาด Mobile Payment ของจีนจะได้รับผลกระทบต่อการมาของหยวนดิจิทัลมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับท่าทีของรัฐบาลจีนล้วนๆเลยครับ มันเป็นที่คาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนจะบังคับให้ Mobile Payment ทั้งสองเจ้านี้ช่วยกระตุ้นการใช้หยวนดิจิทัล ถึงแม้ว่าธนาคารต่างๆจะมีแอปเป็นของตัวเองแต่มันไม่เป็นที่นิยมเท่า Alipay และ Wechat Pay อยู่แล้ว โดยปกติทั้งสองแอปนี้จะได้ค่าธรรมเนียมจากการใช้จ่ายของคน ดังนั้นคำถามที่สำคัญเลยก็คือว่ารัฐบาลจีนจะยอมให้ทั้งสองเจ้านี้เก็บค่าธรรมเนียมจากหยวนดิจิทัลหรือไม่ ถ้ายอมให้เก็บในอัตราเดียวกับแอปธนาคาร (ถ้ามี) ทั้งสองแอปนี้ก็จะมีผลกระทบน้อย แต่ถ้ารัฐบาลจีนไม่ให้เก็บค่าธรรมเนียมทั้งสองแอปนี้จะได้รับผลกระทบหนักมากเพราะจะต้องหา Revenue Model ใหม่ทันที
สำหรับประชาชนชาวจีน: นี่คือกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบของการมาของหยวนดิจิทัลโดยตรง ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม หนึ่งคือคนที่ใช้ Mobile Payment เช่น Alipay และ Wechat Pay อยู่แล้วซึ่งมีอยู่ประมาณ 49.6% ของประชากรในประเทศ (ที่มา: emarketer.com) ชาวจีนกลุ่มนี้จะแทบไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงเพราะคุ้นเคยกับการใช้เงินดิจิทัลอยู่แล้ว อีกกลุ่มคือชาวจีนที่เป็นกลุ่ม Unbanked (เข้าไม่ถึงธนาคาร) และยังไม่มี Mobile Payment คนกลุ่มนี้จะได้ประโยชน์อย่างมหาศาลเพราะพวกเขาจะเข้าถีงการบริการทางการเงินมากขึ้นเนื่องจากว่าแค่มีมือถือก็เปิดบัญชีได้แล้ว การทำธุรกรรมต่างๆไม่ว่าจะในประเทศหรือระหว่างประเทศก็จะทำได้ง่ายขึ้นด้วยค่าใช้จ่ายที่ถูกลงมาก
ในทางกลับกันคนจีนจะถูกควบคุมโดยรัฐบาลมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากเดิมที่รู้ข้อมูลของประชาชนเยอะอยู่แล้วหลังจากนี้รัฐบาลจะรู้ข้อมูลทางการเงินของประชาชนอีก แทบจะเรียกได้ว่าอยู่ในสายตาของรัฐบาลตลอดเวลาจริงๆ หลังจากนี้เราอาจจะได้เห็นคนจีนที่มีฐานะไปซื้อบ้านหรือทรัพย์สินในต่างประเทศเพื่อที่จะหาพื้นที่หลบเลี่ยงสายตารัฐบาลหรือเพื่อที่จะอพยพออกหากชีวิตของพวกเขาจะถูกควบคุมไปมากว่านี้ สามารถชมตอนที่ 1 ได้ที่นี่ http://sitawan112.blogspot.com/2020/05/us-dollar.html ขอบคุณแหล่งข้อมูล https://www.blockdit.com/articles/5eb50ce6332dd110ab4f2cf7/#