วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เงินหยวนดิจิทัลตีแสกหน้าแบงก์จีน

เงินหยวนดิจิทัลตีแสกหน้าแบงก์จีน

13 พ.ค. 2563 08:44 น.


นายมาณพ เสงี่ยมบุตร รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน China Business ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การประกาศเริ่มใช้เงินหยวนดิจิทัลของจีน น่าจะเป็นนวัตกรรมทางการเงินที่สำคัญที่สุดหลังจากเหตุการณ์โรคระบาด โดยเงินหยวนดิจิทัลนี้ไม่ใช่สกุลใหม่ หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของเงินหยวนปกติ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายการเงิน ตลอดจนมีส่วนช่วยในการปราบปรามการทุจริต

ในระยะยาวอาจเป็นตัวเสริมความเป็นสากลของเงินหยวน อีกทั้งเงินหยวนดิจิทัลมีคุณสมบัติและวัตถุประสงค์ที่ตรงกันข้ามกับสกุลเงินดิจิทัลหรือ cryptocurrency อื่นๆ และเมื่อพิจารณาถึงผลต่อภาคธุรกิจ คาดว่าธนาคารพาณิชย์จีนน่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะเงินดิจิทัลนี้ให้ลดทอนบทบาทธนาคารพาณิชย์ในการทำหน้าที่เป็นตัวส่งต่อกลไกราคา อีกทั้งความต้องการใช้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อาจลดลง


“เงินหยวนดิจิทัลมีความต่างจากกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากเงินหยวนดิจิทัลจะถูกเก็บอยู่ในมือถือของประชาชนโดยตรง การใช้จ่ายทำผ่านระบบ NFC ก็คือเอาโทรศัพท์มือถือมาแตะกัน จึงให้ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลสูงกว่าสำหรับประชาชนทั่วไป เพราะข้อมูลการใช้จ่ายจะถูกจัดเก็บรวมกันที่ธนาคารกลาง ไม่กระจายอยู่ที่บริษัทเอกชน และสิ่งที่ต้องจับตาหลังจากนี้ในภาคธุรกิจคือ เมื่อมีการใช้เงินหยวนดิจิทัลในวงกว้าง ธุรกิจร้านค้าอาจถูกติดตามเรื่องการเสียภาษีได้ง่ายขึ้น”
ทั้งนี้ในมุมมองของไทยพาณิชย์ สิ่งที่ต้องจับตามองอย่างมาก คือเมืองสงอัน ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงปักกิ่ง เพราะรัฐบาลจีนจะผลักดันให้เป็นเมืองอัจฉริยะแห่งอนาคต ในส่วนของกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Apple Pay, AliPay และ WeChat นั้น รัฐบาลจีนออกกฎชัดว่าต้องสามารถรองรับการใช้งานของเงินหยวนดิจิทัลได้ ซึ่งน่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้การใช้งานแพร่หลายอย่างรวดเร็ว สำหรับแนวคิดของเงินหยวนดิจิทัลนั้นอยู่ตรงกันข้ามกับ cryptocurrency เช่น bitcoin หรือ stable coin เช่น Libra และยังเป็นการสกัดกั้น cryptocurrency อีกด้วย 


เนื่องจากเงินหยวนดิจิทัลมีลักษณะ 3 ประการ
1. มีกฎหมายรองรับและไม่ใช่เงินสกุลใหม่
2. มีลักษณะรวมศูนย์: เงินหยวนดิจิทัลไม่อิงกับเทคโนโลยี blockchain มีลักษณะการจัดเก็บแบบรวมศูนย์มาที่ธนาคารกลาง คือธนาคารกลางสามารถรู้ข้อมูลการเคลื่อนไหวตลอดจนสถานะของผู้ถือ
3. มีดอกเบี้ย แต่ในขั้นทดลองนี้ยังไม่มีการกำหนดดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจไทยควรจับตาแนวโน้มระยะยาว ว่าความคล่องตัวของเงินหยวนดิจิทัลจะมีส่วนผลักดันให้เงินหยวนมีความเป็นสากลมากขึ้นหรือไม่เพียงใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขั้นตอนการโอนเงินเข้าออกประเทศจีนเพื่อชำระสินค้าค่าบริการและการลงทุน ตลอดจนการเพิ่มน้ำหนักของเงินหยวนในเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของประเทศต่างๆ ซึ่งมีผลต่อเนื่องกับอัตราแลกเปลี่ยน.

ขอบคุณแหล่งข้อมูล
https://www.thairath.co.th/news/business/finance-banking/1842831?fbclid=IwAR0k68HPW7IieK5GbiGNEzX_Bu-qzYX3YCK408pt6rCpXySJNBSA42myvWI