วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

DCEP เป็นเงินดิจิตอลที่ถูกกฎหมายสกุลเดียวของจีน




DCEP เป็นเงินดิจิตอลที่ถูกกฎหมายสกุลเดียวของจีน



เหรียญดิจิตอลหยวนของจีนนั้นใกล้จะเปิดตัวออกมาแล้ว สังคมต่างรอคอยว่ามันจะออกมาเป็นลักษณะเช่นไร ด้านอดีตผู้ว่าการธนาคาร People’s Bank of China ก็ได้ออกมาชี้ว่ามันอาจเข้ามาแทนที่เงินสดได้ หากมันมีประสิทธิภาพมากพอและผู้คนยอมรับ

DCEP คืออะไร

Digital Currency DCEP (Digital Currency Electronic Payment, DC / EP) เป็นสกุลเงินดิจิตอลของประเทศจีนที่สร้างด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนและคริปโตกราฟฟิคซึ่งเหรียญ DCEP นี้อาจเป็นสกุลเงินดิจิตอลของธนาคารกลางเหรียญแรกของโลกเลยก็ว่าได้ จุดประสงค์ของการสร้างเงินหยวนดิจิตอลนี้ก็เพื่อผลักดันให้เงินหยวนมีการไหลเวียนในระบบคล่องมากขึ้น รวมถึงให้นานาประเทศสามารถเข้าถึงเงินหยวนได้และทำให้เงินหยวนเป็นที่นิยมเทียบเท่ากับเงินดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ประเทศจีนยังเป็นประเทศที่ผลักดันเทคโนโลยีบล็อกเชนโดยมีจุดประสงค์เพื่อแข่งขันกับเหรียญลิบร้าของเฟสบุ๊คที่ทางซีอีโอนายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กตั้งใจจะให้มันกลายมาเป็นนวัตกรรมฟินเท็คขั้นต่อไป ทางการจีนก็มองว่าเหรียญลิบร้านี้เป็นภัยคุกคามต่ออำนาจอธิปไตยของจีนจึงได้ตั้งใจสร้างและออกเหรียญ DCEP โดยเหรียญจะไม่ถูกลิสต์บนเว็บเทรดคริปโตและไม่ได้เอามาไว้ใช้เก็งกำไรแต่อย่างใด


DCEP เป็นเงินดิจิตอลที่ถูกกฎหมายสกุลเดียวของจีน

เงินหยวนดิจิตอลหรือ DCEP นั้นจะเป็นสกุลเงินที่สร้างและบังคับใช้โดยรัฐบาลจีนและไม่ใช่เหรียญ stablecoin ที่สร้างจากบุคคลที่สามอย่าง Tether โดยเงินหยวนดิจิตอลนี้จะมีเงินหยวนจริงๆ เป็นแบ็คอัพแบบ 1:1 ซึ่ง  DCEP เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่ถูกกฎหมายเพียงหนึ่งเดียวในจีน

นาย Huang Qifan ประธานศูนย์การแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของจีนได้กล่าวว่าพวกเขาทำการสร้างและพัฒนาเหรียญ DCEP มาเป็นเวลา 5-6 ปีจึงมั่นใจที่จะนำมาใช้ในระบบการเงินของประเทศซึ่งใกล้จะเปิดตัวเร็วๆ นี้แล้ว


ทำไมจีนถึงสร้างสกุลเงินดิจิตอล?

รายงานจากสื่อของประเทศเผยว่า DCEP จะช่วยลดความเสี่ยงด้านการปลอมแปลง, การฟอกเงินและการจัดหาเงินทุนที่ผิดกฎหมาย เพราะหน่วยงานกำกับดูแลสามารถตรวจสอบการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิตอลได้ นอกจากนี้การใช้เงินหยวนดิจิตอลยังสามารถลดค่าใช้จ่ายในการรีไซเคิลธนบัตรและเหรียญกษาปณ์

นอกจากนี้เหรียญ DCEP ก็จะถูกนำมาใช้กับการค้าระหว่างประเทศด้วย โดยก่อนหน้าที่จะใช้ระบบ CIPS นั้นประเทศจีนได้ใช้ระบบ CHIPS (Clearing House Interbank Payments System) หรือ SWIFT (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication)ในการชำระเงินระหว่างประเทศมาก่อน ซึ่งทั้งระบบ CHIP และ SWIFT นั้นมีข้อเสีย อย่างแรกเลยคือ CHIPS เป็นบริษัทของสหรัฐฯ ส่วน SWIFT นั้นก็ค่อนข้างที่จะเป็นที่ใช้งานกันแพร่หลายระหว่างธนาคารนานาประเทศ ซึ่งใครก็ตามที่เป็นผู้ควบคุมระบบ SWIFT จะสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงินระหว่างประเทศได้เกือบทั้งหมด 

https://m.youtube.com/watch?v=wWoN8Nx2u44&feature=youtu.b