เปิดฟ้าส่องโลก : DCEP ทำให้ทรัมป์ร้อนรนจนไหม้
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย19 พ.ค. 2563 05:01 น.
จีนยังไม่ให้คนต่างชาติเข้าประเทศแม้จะมีวีซ่าครอบครัวก็ตาม ทำให้นักธุรกิจชาวไทยที่มีธุรกิจในจีนหลายคนต้องตกค้างอยู่ในเมืองไทย แต่หลายธุรกิจก็ยังดำเนินไปได้โดยไม่เสียหาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนจีนไม่ใช้เงินสดในการจับจ่ายใช้สอย จึงเกิดการทุจริตได้ยาก
ยกตัวอย่างธุรกิจภัตตาคาร ฝ่ายจัดซื้อซื้อวัตถุดิบได้แล้วก็วีแชตมาบอกให้เจ้าของซึ่งอยู่ในไทยโอนเงินจ่ายค่าสินค้า ลูกค้าทานอาหารเสร็จก็จ่ายค่าอาหารผ่านคิวอาร์โค้ด หลังโควิด-19 ธุรกิจในจีนก็ยังดำเนินไปได้อย่างราบรื่น เจ้าของภัตตาคารที่อยู่ในประเทศไทยสามารถเห็นลูกค้ายืนหน้าร้าน เข้าไปนั่งทานในร้าน เห็นเมนูที่ลูกค้าสั่ง และทราบวัตถุดิบที่จะหมดผ่านระบบออนไลน์ เสมือนนั่งสั่งการจากภัตตาคารในประเทศจีน และหลายธุรกิจก็ทำในลักษณะเดียวกัน
อนาคตอันใกล้ จีนจะใช้ DCEP ทั้งประเทศ DCEP ย่อมาจาก Digital Currency Electronic Payment หรือเงินหยวนดิจิทัล ขณะนี้ ธนาคารกลางจีนทดลองใช้ DCEP ในเซินเจิ้น ซูโจว เฉินตู และเซียงอัน ธนาคารกลางจีนใช้เทคโนโลยีรวมการทำธุรกรรมทางการเงิน DCEP ไว้ที่ธนาคารกลางจีนเพียงแห่งเดียว ไม่ได้กระจายศูนย์แบบเดียวกับระบบบล็อกเชน
ตอนนี้กำลังจะมีการออกเงินหยวนดิจิทัลมากถึง 1 ล้านล้านหยวน เป็นเงินไทยก็คือ 4.5 ล้านล้านบาท นี่เป็นส่วนหนึ่งของเงินที่จะถูกเก็บในสมาร์ทโฟนของคนจีน การใช้จ่ายเงินต้องจ่ายผ่านคิวอาร์โค้ดและข้อมูลการใช้จ่ายจะถูกเก็บไว้ที่ธนาคารกลาง รัฐบาลจีนจะเป็นประเทศแรกในโลกที่รู้ว่าเงินสกุลของตนอยู่กับใครที่ไหนบ้าง เคยใช้จ่ายในด้านใด และจะต้องเก็บภาษีเท่าใด
จีนเป็นแห่งแรกของโลกที่ประกาศใช้สกุลเงินของตนเองผ่านช่องทางดิจิทัล ตอนนี้ธุรกิจทุกอย่างในจีนขานรับ DCEP ผู้คน 1,400 ล้านจะจ่ายภาษีอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ขาดแม้แต่หยวนเดียว ผู้อ่านท่านลองหลับตาจินตนาการนึกถึงเม็ดเงินมากมายมหาศาลที่จะมาใช้พัฒนาประเทศในทุกด้าน สาธารณรัฐประชาชนจีนจะเจริญชนิดพุ่งกระฉูดส่งตูดจัมโบ้อย่างที่เราคาดไม่ถึง
โลกตะวันตกสบประมาทว่า DCEP จะแป้ก ขอเรียนว่าไม่แป้กครับ แม้แต่บริษัทต่างชาติที่ทำธุรกิจกับจีนตอนนี้ก็หันมาปรับระบบของตัวให้รองรับ DCEP กันแล้ว DCEP ไม่ผันผวนขึ้นๆ ลงๆ อย่างน่าหวาดเสียวเหมือนเงินสกุลดิจิทัลอื่น หยวนกับหยวนดิจิทัลมีมูลค่าเท่ากัน
DCEP ใช้ได้กับทุกแอปพลิเคชันของทุกธนาคาร คนที่ไม่มีบัญชีธนาคารก็สามารถใช้ผ่านแอปกระเป๋าเงินหรือ wallet ได้ทั้งอาลีเพย์ วีแชตเพย์ หรือร้านค้าที่รองรับได้ทั้งหมด อินเตอร์เน็ตล่มก็สามารถโอนผ่าน NFC เพียงแค่เอามือถือ 2 เครื่องมาจ่อใกล้กันก็ใช้โอนเงินได้แล้ว
โควิด-19 ทำให้ผู้คนระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะไม่รู้ว่าเชื้อโรคจะอยู่บนธนบัตรหรือเหรียญบ้างหรือเปล่า แม้เงินหยวนธนบัตรจะยังมีใช้กันอยู่ แต่ตอนนี้ก็ลดบทบาทลงไปเยอะมาก อีกไม่นานก็คงจะหายไป รัฐบาลจีนลดค่าใช้จ่ายในการผลิตธนบัตร
DCEP คือการตัดตัวกลางในการทำธุรกรรม อย่างธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินต่างๆ เงินจะวิ่งตรงจากผู้ซื้อไปที่ผู้ขาย DCEP ทำให้การโอนเงินข้ามประเทศรวดเร็วและประหยัด ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการโอน
จีนจะเป็นประเทศแรกที่แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างตรงจุดที่สุด รัฐบาลจะรู้การใช้จ่ายของประชาชนจนสามารถออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการใช้เงินได้อย่างถูกต้อง
ตอนนี้ รัฐบาลจีนทดลองจ่ายเงินเดือนข้าราชการด้วย DCEP แล้ว ข้าราชการและครอบครัวใดใช้เงินเกินที่ตัวเองได้รับ ก็สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นเงินหรือไม่ อีกไม่กี่ปีข้างหน้า 70 ประเทศทั่วโลกตามโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน จะหันมาใช้ DCEP ผมมีความเชื่อส่วนตัวว่า DCEP จะกลายมาเป็นสกุลเงินหลักที่ทั่วโลกใช้งานแทนดอลลาร์
สิ่งที่ทำให้ทรัมป์ร้อนรนจนไหม้คือ DCEP.
ภาพจากอินเทอร์เน็ต
จีนยังไม่ให้คนต่างชาติเข้าประเทศแม้จะมีวีซ่าครอบครัวก็ตาม ทำให้นักธุรกิจชาวไทยที่มีธุรกิจในจีนหลายคนต้องตกค้างอยู่ในเมืองไทย แต่หลายธุรกิจก็ยังดำเนินไปได้โดยไม่เสียหาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนจีนไม่ใช้เงินสดในการจับจ่ายใช้สอย จึงเกิดการทุจริตได้ยาก
ยกตัวอย่างธุรกิจภัตตาคาร ฝ่ายจัดซื้อซื้อวัตถุดิบได้แล้วก็วีแชตมาบอกให้เจ้าของซึ่งอยู่ในไทยโอนเงินจ่ายค่าสินค้า ลูกค้าทานอาหารเสร็จก็จ่ายค่าอาหารผ่านคิวอาร์โค้ด หลังโควิด-19 ธุรกิจในจีนก็ยังดำเนินไปได้อย่างราบรื่น เจ้าของภัตตาคารที่อยู่ในประเทศไทยสามารถเห็นลูกค้ายืนหน้าร้าน เข้าไปนั่งทานในร้าน เห็นเมนูที่ลูกค้าสั่ง และทราบวัตถุดิบที่จะหมดผ่านระบบออนไลน์ เสมือนนั่งสั่งการจากภัตตาคารในประเทศจีน และหลายธุรกิจก็ทำในลักษณะเดียวกัน
อนาคตอันใกล้ จีนจะใช้ DCEP ทั้งประเทศ DCEP ย่อมาจาก Digital Currency Electronic Payment หรือเงินหยวนดิจิทัล ขณะนี้ ธนาคารกลางจีนทดลองใช้ DCEP ในเซินเจิ้น ซูโจว เฉินตู และเซียงอัน ธนาคารกลางจีนใช้เทคโนโลยีรวมการทำธุรกรรมทางการเงิน DCEP ไว้ที่ธนาคารกลางจีนเพียงแห่งเดียว ไม่ได้กระจายศูนย์แบบเดียวกับระบบบล็อกเชน
ตอนนี้กำลังจะมีการออกเงินหยวนดิจิทัลมากถึง 1 ล้านล้านหยวน เป็นเงินไทยก็คือ 4.5 ล้านล้านบาท นี่เป็นส่วนหนึ่งของเงินที่จะถูกเก็บในสมาร์ทโฟนของคนจีน การใช้จ่ายเงินต้องจ่ายผ่านคิวอาร์โค้ดและข้อมูลการใช้จ่ายจะถูกเก็บไว้ที่ธนาคารกลาง รัฐบาลจีนจะเป็นประเทศแรกในโลกที่รู้ว่าเงินสกุลของตนอยู่กับใครที่ไหนบ้าง เคยใช้จ่ายในด้านใด และจะต้องเก็บภาษีเท่าใด
จีนเป็นแห่งแรกของโลกที่ประกาศใช้สกุลเงินของตนเองผ่านช่องทางดิจิทัล ตอนนี้ธุรกิจทุกอย่างในจีนขานรับ DCEP ผู้คน 1,400 ล้านจะจ่ายภาษีอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ขาดแม้แต่หยวนเดียว ผู้อ่านท่านลองหลับตาจินตนาการนึกถึงเม็ดเงินมากมายมหาศาลที่จะมาใช้พัฒนาประเทศในทุกด้าน สาธารณรัฐประชาชนจีนจะเจริญชนิดพุ่งกระฉูดส่งตูดจัมโบ้อย่างที่เราคาดไม่ถึง
โลกตะวันตกสบประมาทว่า DCEP จะแป้ก ขอเรียนว่าไม่แป้กครับ แม้แต่บริษัทต่างชาติที่ทำธุรกิจกับจีนตอนนี้ก็หันมาปรับระบบของตัวให้รองรับ DCEP กันแล้ว DCEP ไม่ผันผวนขึ้นๆ ลงๆ อย่างน่าหวาดเสียวเหมือนเงินสกุลดิจิทัลอื่น หยวนกับหยวนดิจิทัลมีมูลค่าเท่ากัน
DCEP ใช้ได้กับทุกแอปพลิเคชันของทุกธนาคาร คนที่ไม่มีบัญชีธนาคารก็สามารถใช้ผ่านแอปกระเป๋าเงินหรือ wallet ได้ทั้งอาลีเพย์ วีแชตเพย์ หรือร้านค้าที่รองรับได้ทั้งหมด อินเตอร์เน็ตล่มก็สามารถโอนผ่าน NFC เพียงแค่เอามือถือ 2 เครื่องมาจ่อใกล้กันก็ใช้โอนเงินได้แล้ว
โควิด-19 ทำให้ผู้คนระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะไม่รู้ว่าเชื้อโรคจะอยู่บนธนบัตรหรือเหรียญบ้างหรือเปล่า แม้เงินหยวนธนบัตรจะยังมีใช้กันอยู่ แต่ตอนนี้ก็ลดบทบาทลงไปเยอะมาก อีกไม่นานก็คงจะหายไป รัฐบาลจีนลดค่าใช้จ่ายในการผลิตธนบัตร
DCEP คือการตัดตัวกลางในการทำธุรกรรม อย่างธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินต่างๆ เงินจะวิ่งตรงจากผู้ซื้อไปที่ผู้ขาย DCEP ทำให้การโอนเงินข้ามประเทศรวดเร็วและประหยัด ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการโอน
จีนจะเป็นประเทศแรกที่แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างตรงจุดที่สุด รัฐบาลจะรู้การใช้จ่ายของประชาชนจนสามารถออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการใช้เงินได้อย่างถูกต้อง
ตอนนี้ รัฐบาลจีนทดลองจ่ายเงินเดือนข้าราชการด้วย DCEP แล้ว ข้าราชการและครอบครัวใดใช้เงินเกินที่ตัวเองได้รับ ก็สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นเงินหรือไม่ อีกไม่กี่ปีข้างหน้า 70 ประเทศทั่วโลกตามโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน จะหันมาใช้ DCEP ผมมีความเชื่อส่วนตัวว่า DCEP จะกลายมาเป็นสกุลเงินหลักที่ทั่วโลกใช้งานแทนดอลลาร์
สิ่งที่ทำให้ทรัมป์ร้อนรนจนไหม้คือ DCEP.