5 เรื่องต้องรู้ เมื่อจีนทดสอบ
"หยวนดิจิทัล" ใหม่เต็มรูปแบบ
"หยวนดิจิทัล" ใหม่เต็มรูปแบบ
เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ประเทศจีนมีกำหนดเริ่มทดสอบระบบสกุลเงินดิจิทัลใหม่ใน 4 เมืองใหญ่ตั้งแต่ต้นพฤษภาคม 63 ต่อยอดจากที่ธนาคารกลางของจีนลงมือพัฒนาระบบ e-RMB หรือเงินหยวนดิจิทัลในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ความสำคัญของเงินหยวนดิจิทัลคือโอกาสเป็นสกุลเงินดิจิทัลตัวแรกที่ถูกดำเนินการโดยระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก
ทดสอบนอกปักกิ่ง
ก่อนหน้านี้ จีนเริ่มนำร่องทดสอบระบบชำระเงินด้วยหยวนดิจิทัลในหลายเมือง เช่น เซินเจิ้น, ซูโจว, เฉิงตู และพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ ทางตอนใต้ของปักกิ่งอย่างเซียงอัน รวมถึงพื้นที่ที่จีนวางแผนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว Beijing Winter Olympics ปี 2022
สื่อของรัฐบาลจีนอย่างไชน่าเดลี่ ย้ำว่าปัจจุบัน จีนได้ปรับใช้หยวนดิจิทัลกับระบบการเงินของหลายเมืองอย่างเป็นทางการ โดยพนักงานของรัฐ และข้าราชการบางส่วนจะเริ่มได้รับเงินเดือนและสวัสดิการเป็นสกุลเงินดิจิทัลตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
ธุรกิจข้ามชาติยังรอดู
เงินหยวนดิจิทัลจะถูกใช้กับระบบขนส่งมวลชนในซูโจว ขณะที่เมืองเซียงอันจะใช้กับธุรกิจอาหารและค้าปลีกเป็นหลัก รายงานบางฉบับชี้ว่าเงินหยวนดิจิทัลเริ่มจุดพลุตั้งแต่กลางเมษายน ขณะที่บางรายงานชี้ว่าบริษัทข้ามชาติอย่างแมคโดนัลด์ (McDonald) และสตาร์บักส์ (Starbucks) ได้ตกลงที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบด้วย อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ยังไม่แน่ชัด เพราะในแถลงการณ์ที่ Starbucks ชี้แจงกับ The Guardian ระบุว่าบริษัทยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการสื่อของรัฐบาลจีนอย่างไชน่าเดลี่ ย้ำว่าปัจจุบัน จีนได้ปรับใช้หยวนดิจิทัลกับระบบการเงินของหลายเมืองอย่างเป็นทางการ โดยพนักงานของรัฐ และข้าราชการบางส่วนจะเริ่มได้รับเงินเดือนและสวัสดิการเป็นสกุลเงินดิจิทัลตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป
ธุรกิจข้ามชาติยังรอดู
แพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลที่แพร่หลายในประเทศจีนเช่นอาลีเพย์ (Alipay) ของบริษัทแอนท์ไฟแนนเชียล (Ant Financial) ในเครืออาลีบาบา และวีแชตเพย์ (WeChat Pay) ของเทนเซ็นต์ (Tencent) จะไม่ได้รับหรือส่งผลกระทบใดกับสกุลเงินของจีน โดยหยวนดิจิทัลถูกสร้างมาเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในเงินสดเท่านั้น
สางปมเงินสดกระจัดกระจาย
Xu Yuan อาจารย์ประจำสถาบันวิจัยการพัฒนาแห่งชาติ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) ของจีนว่าเนื่องจากการทำธุรกรรมเงินสดเป็นแบบออฟไลน์ และข้อมูลธุรกรรมจากแพลตฟอร์มการชำระเงินที่มีอยู่ในปัจจุบันล้วนกระจัดกระจาย ทำให้ธนาคารกลางไม่สามารถตรวจสอบกระแสเงินสดได้แบบเรียลไทม์
เงินหยวนดิจิทัลจึงเกิดขึ้นเพื่อเอื้อต่อการกำกับดูแลของธนาคารกลาง ซึ่งจีนมองว่าแม้เงินหยวนดิจิทัลจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการได้ติดตามรูปแบบทางการเงินและกำกับดูแลกิจการและสังคมอย่างใกล้ชิดอีกขั้น
ไม่มีผิดพลาด
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 63 สถาบันวิจัยสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน ย้ำว่าการวิจัยและพัฒนาเงินหยวนในระบบดิจิตอลนั้นเป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการออกแบบด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ถูกวิจัยและดีบักหรือแก้ปัญหาในระบบอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
การการันตีนี้ถูกมองว่าเป็นแผนเรียกความมั่นใจ เพราะเงินหยวนดิจิทัลที่จะถูกตรึงไว้กับสกุลเงินหยวนของประเทศนั้นเพิ่งถูกพัฒนาขึ้นไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ในเดือนสิงหาคม ธนาคารจีนย้ำว่าเงินสกุลนี้มีความพร้อม “เกือบเต็มร้อย” อย่างไรก็ตาม ในเดือนต่อมา ผู้อำนวยการธนาคาร Yi Gang กลับกล่าวว่ายังไม่มีกำหนดการสำหรับการเปิดตัว ซึ่งการเปลี่ยนใจครั้งนี้ทำให้เงินหยวนดิจิทัลถูกจุดพลุก่อนหน้าเฟซบุ๊ก (Facebook) ที่มีแผนจะเปิดตัวสกุลเงินของตัวเองในเดือนมิถุนายนนี้