วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

5 เรื่องต้องรู้ เมื่อจีนทดสอบ "หยวนดิจิทัล" ใหม่เต็มรูปแบบ


5 เรื่องต้องรู้ เมื่อจีนทดสอบ
"หยวนดิจิทัล" ใหม่เต็มรูปแบบ

เผยแพร่:    ปรับปรุง:    โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประเทศจีนมีกำหนดเริ่มทดสอบระบบสกุลเงินดิจิทัลใหม่ใน 4 เมืองใหญ่ตั้งแต่ต้นพฤษภาคม 63 ต่อยอดจากที่ธนาคารกลางของจีนลงมือพัฒนาระบบ e-RMB หรือเงินหยวนดิจิทัลในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ความสำคัญของเงินหยวนดิจิทัลคือโอกาสเป็นสกุลเงินดิจิทัลตัวแรกที่ถูกดำเนินการโดยระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก

ทดสอบนอกปักกิ่ง
ก่อนหน้านี้ จีนเริ่มนำร่องทดสอบระบบชำระเงินด้วยหยวนดิจิทัลในหลายเมือง เช่น เซินเจิ้น, ซูโจว, เฉิงตู และพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ ทางตอนใต้ของปักกิ่งอย่างเซียงอัน รวมถึงพื้นที่ที่จีนวางแผนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว Beijing Winter Olympics ปี 2022
สื่อของรัฐบาลจีนอย่างไชน่าเดลี่ ย้ำว่าปัจจุบัน จีนได้ปรับใช้หยวนดิจิทัลกับระบบการเงินของหลายเมืองอย่างเป็นทางการ  โดยพนักงานของรัฐ และข้าราชการบางส่วนจะเริ่มได้รับเงินเดือนและสวัสดิการเป็นสกุลเงินดิจิทัลตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป




ธุรกิจข้ามชาติยังรอดู
เงินหยวนดิจิทัลจะถูกใช้กับระบบขนส่งมวลชนในซูโจว ขณะที่เมืองเซียงอันจะใช้กับธุรกิจอาหารและค้าปลีกเป็นหลัก  รายงานบางฉบับชี้ว่าเงินหยวนดิจิทัลเริ่มจุดพลุตั้งแต่กลางเมษายน  ขณะที่บางรายงานชี้ว่าบริษัทข้ามชาติอย่างแมคโดนัลด์ (McDonald)  และสตาร์บักส์ (Starbucks) ได้ตกลงที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบด้วย อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ยังไม่แน่ชัด เพราะในแถลงการณ์ที่ Starbucks ชี้แจงกับ The Guardian ระบุว่าบริษัทยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการ

แพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลที่แพร่หลายในประเทศจีนเช่นอาลีเพย์ (Alipay) ของบริษัทแอนท์ไฟแนนเชียล (Ant Financial) ในเครืออาลีบาบา และวีแชตเพย์ (WeChat Pay) ของเทนเซ็นต์ (Tencent) จะไม่ได้รับหรือส่งผลกระทบใดกับสกุลเงินของจีน โดยหยวนดิจิทัลถูกสร้างมาเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในเงินสดเท่านั้น

สางปมเงินสดกระจัดกระจาย
Xu Yuan อาจารย์ประจำสถาบันวิจัยการพัฒนาแห่งชาติ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) ของจีนว่าเนื่องจากการทำธุรกรรมเงินสดเป็นแบบออฟไลน์ และข้อมูลธุรกรรมจากแพลตฟอร์มการชำระเงินที่มีอยู่ในปัจจุบันล้วนกระจัดกระจาย ทำให้ธนาคารกลางไม่สามารถตรวจสอบกระแสเงินสดได้แบบเรียลไทม์
เงินหยวนดิจิทัลจึงเกิดขึ้นเพื่อเอื้อต่อการกำกับดูแลของธนาคารกลาง ซึ่งจีนมองว่าแม้เงินหยวนดิจิทัลจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ก็ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการได้ติดตามรูปแบบทางการเงินและกำกับดูแลกิจการและสังคมอย่างใกล้ชิดอีกขั้น

ไม่มีผิดพลาด
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 63 สถาบันวิจัยสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน ย้ำว่าการวิจัยและพัฒนาเงินหยวนในระบบดิจิตอลนั้นเป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  ผ่านการออกแบบด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ถูกวิจัยและดีบักหรือแก้ปัญหาในระบบอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

การการันตีนี้ถูกมองว่าเป็นแผนเรียกความมั่นใจ  เพราะเงินหยวนดิจิทัลที่จะถูกตรึงไว้กับสกุลเงินหยวนของประเทศนั้นเพิ่งถูกพัฒนาขึ้นไม่กี่ปีที่ผ่านมา  แต่ในเดือนสิงหาคม ธนาคารจีนย้ำว่าเงินสกุลนี้มีความพร้อม “เกือบเต็มร้อย” อย่างไรก็ตาม ในเดือนต่อมา  ผู้อำนวยการธนาคาร Yi Gang กลับกล่าวว่ายังไม่มีกำหนดการสำหรับการเปิดตัว ซึ่งการเปลี่ยนใจครั้งนี้ทำให้เงินหยวนดิจิทัลถูกจุดพลุก่อนหน้าเฟซบุ๊ก (Facebook) ที่มีแผนจะเปิดตัวสกุลเงินของตัวเองในเดือนมิถุนายนนี้


ลดการคุกคาม
สื่อจีนชี้ว่าการเปิดตัวหยวนดิจิทัลจะเป็นทางเลือกที่ประชาชนจะใช้งานเทียบเท่ากับเงินดอลล่าร์ ผลคือเงินดิจิทัลนี้จะช่วยลดผลกระทบจากมาตรการ หรือการคุกคามอื่นทั้งในรูปแบบยึดทรัพย์ทั้งในระดับประเทศและระดับบริษัท นอกจากนี้ยังสามารถอำนวยความสะดวกในการฝังตัวรวมเข้ากับตลาดสกุลเงินทั่วโลก โดยที่ลดความเสี่ยงจากการแทรกแซงทางการเมืองได้ชัดเจน


"เงินหยวนดิจิทัล" จะทำให้การใช้เงินสดของชาวจีนลดลงแน่นอน ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจน ท่ามกลางแพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น  พร้อมกับที่ผู้คนต้องการหลีกเลี่ยงการสัมผัสในช่วงการระบาดของโควิด-19 ด้วย