วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2563

จีนจะยกเลิกสกุลเงินหยวน ใช้สกุลเงินดิจิตอลแทน ล้มอาลีเพย์ โค่นอำนาจครองความเป็นเจ้าทางการเงิน


จีนจะยกเลิกสกุลเงินหยวน
ใช้ "สกุลเงินดิจิตอล" แทน
ล้มอาลีเพย์ โค่นอำนาจครองความเป็นเจ้าทางการเงิน

(ชมคลิป)

    ..สวัสดีท่านผู้ชมนี่คือรายการ "ไฟลามทุ่ง" วันนี้จะคุยกับท่านผู้ชมถึงเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งของจีน ในที่ประชุมประกาศสถิติทางการเงินเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2020 โจวเสียตรงผู้อำนวยการในการสำนักงานธนาคารกลางชี้ว่า
   "..สกุลเงินดิจิตอลของธนาคารกลางคืบหน้าไปตามแผนเดิม"
เวลาต่อมาบนอินเตอร์เน็ตก็มีการเผยแพร่ภาพถ่าย  เผยโฉมหน้าสกุลเงินดิจิตอลลักษณะจำเพาะของจีน  สกุลเงินดิจิตอลของจีน ได้เข้าสู่สายตาของผู้คนเป็นครั้งแรก จากสื่อที่มีส่วนเกี่ยวข้องเผยว่า..

    "..ปัจจุบันสกุลเงินดิจิตอลตามกฎหมายของธนาคารกลาง  DC / EP ได้สำเร็จลุล่วงแล้วโดยพื้นฐาน งานออกแบบประดับบนกำหนดมาตรฐานพัฒนาฟังชั่น และทดสอบข้อต่อเป็นต้น รวมได้ทำการทดสอบภายในธนาคารเกษตรกรรมแล้ว  โดยให้เสิ่นเจิ้น สงอาน เฉินตู ซูโจว เป็นเมืองทดลอง.."
       ชมถึงตรงนี้ท่านผู้ชมคงจะสงสัย ...สกุลเงินดิจิตอล ก็คือ สกุลเงินดิจิตอล แต่เหตุใดต้องเพิ่มคำว่า DC / EP นั่นหมายถึงอะไร สกุลเงินดิจิตอลกับ Alipay ในปัจจุบันแตกต่างกันอย่างไร ใจเย็นๆเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง..

สกุลเงินดิจิตอลกับ Alipay แตกต่างกันมาก

      สกุลเงินดิจิตอลที่ธนาคารกลางค้นพบครั้งนี้ อาจเปลี่ยนแปลงโลกทั้งโลก ให้สกุลเงินประชาชนก้าวออกนอกประเทศ ทำให้เจ้าอำนาจทางการเงินของอเมริกาต้องชิดซ้าย 
      จากภาพ DCEP ที่ไหลออกมาจะเห็นตัวพิมพ์  "ธนาคารประชาชนจีน" และ "ธนาคารเกษตรกรรม"  

      คอลัมน์แรกของ DCEP  ผ่านกระบวนการสแกนคิวอาร์โค้ด ชำระเงิน โอนเงิน รับจ่ายเงิน  การทำงานคล้ายคลึงกับ Alipay และ WeChat  ขั้นตอนการทำงานน้อยกว่า ยิ่งสะท้อนให้เห็นสภาพคล่องเเละเรียบง่ายขึ้น เข้าใจง่ายๆ DCEP ก็คือธนบัตรที่แปรเปลี่ยนเป็นดิจิตอลนั่นเอง 

ฟังชั่นกับคุณสมบัติเหมือนกับธนบัตร เพียงแต่ว่ารูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไปเท่านั้นเอง
  คำจำกัดความของมันแปลออกมาแล้วก็คือ   "เครื่องมือชำระดิจิตอลที่มีสัญลักษณ์แห่งมูลค่า" 

 ลักษณะพิเศษที่สำคัญของสกุลเงินดิจิตอลมีอยู่ ข้อ
1.ไม่ต้องมีสมุดบัญชีธนาคาร  มีมือถือติดตั้งกระเป๋าดิจิตอล DCEP ก็สามารถค้าขายได้ ไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีกับธนาคาร ภายใต้สภาพที่ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต มือถือที่ติดตั้งกระเป๋าดิจิตอล 2 เครื่องแค่เอามาชนกันก็สามารถโอนเงินได้
2.มีนิติวิทยาศาสตร์ไม่จำกัดเหมือนเงินสด จะปฏิเสธไม่รับ DCEP ไม่ได้
3.มีลักษณะไม่เปิดเผยชื่อที่แน่นอน รักษาความลับทางการค้าที่ปกติธรรมดา การชำระออฟไลน์ทั้ง2ฝ่าย คือจุดเด่นของ DCEP  การชำระทางอิเล็กทรอนิกของ Alipay และ WeChat ภายใต้ภาวะแวดล้อมที่เลวร้าย เป็นต้นว่าแผ่นดินใต้ดินบนอากาศ ไม่มีสัญญาณ แต่DCEPไม่จำเป็นต้องมีสัญญาณอินเตอร์เน็ต ฝ่ายรับฝ่ายชำระภายใต้ภาวะออฟไลน์ก็สามารถทำได้ ไม่ต่างกับเงินสด 
ลักษณะพิเศษสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ไม่เปิดเผยชื่อในชีวิตประจำวันเราชำระเงินทางอินเตอร์เน็ตหรือบัตรเครดิตธนาคาร  ล้วนต้องผูกติดกับระบบธนาคารดั้งเดิมไม่สามารถสนองความต้องการในการไม่เปิดเผยชื่อ
DCEP สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ทั้งสามารถสนองความต้องการในคุณสมบัติของธนบัตรในลักษณะมูลค่าที่สำคัญ อีกทั้งสามารถสนองความต้องการที่สะดวกต่อการพกพาและไม่เปิดเผยชื่อ  

ขณะเดียวกัน DCEP ยังเป็นอาวุธต่อต้านการฟอกเงิน
         แล้วไม่ย้อนแย้งกับลักษณะไม่เปิดเผยชื่อหรือ ?? ต้องเข้าใจลักษณะไม่เปิดเผยชื่อของ DCEP เป็นสิ่งสัมพัทธ์ มันทั้งรักษาความลับทางการค้าที่ปกติ แต่ผ่านรูปแบบบิ๊กดาต้าไปล่วงรู้พฤติกรรมฟอกเงิน          ยังสามารถล็อกฐานะที่แท้จริงของบุคคล ธาตุแท้ของ DCEP ทางเทคนิคไม่มี  ลักษณะไม่เปิดเผยชื่อ อำนาจการเข้าถึงข้อมูลยังคงอยู่ในมือธนาคารกลาง ในทางเทคนิค สามารถหยิบใช้ข้อมูลทางการค้าของทุกๆคน   คุณก่ออาชญากรรมก็ต้องตรวจสอบคุณ..   คุณไม่ก่ออาชญากรรมก็รักษาความลับให้คุณ..จะรักษาความลับให้คุณหรือไม่ อำนาจอยู่ในมือของธนาคารกลาง
        พูดง่ายๆก็คือ  "ไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคารก็สามารถถ่ายโอน มูลค่าได้" คุณลองคิดถึงธนบัตรคุณก็จะเข้าใจ ตอนที่คุณใช้ธนบัตรไปชำระเงิน คุณไม่จำเป็นต้องมีบัญชีธนาคาร DCEP ก็เช่นเดียวกัน  ตอนที่คุณจะชำระเงิน ไม่จำเป็นต้องผูกติดกับบัญชีธนาคารใดๆ ไม่เหมือนตอนนี้ที่เราชำระด้วยWeChatก็ดี Alipay ก็ดี ล้วนต้องผูกติดกับบัตรเครดิตธนาคาร
       แต่ DCEP ไม่จำเป็น..สามารถบรรลุได้ด้วยการ "ชำระออฟไลน์ทั้งสองฝ่าย " ซึ่งก็คือภายใต้สภาพที่ออฟไลน์ทั้งสองฝ่ายก็สามารถทำการชำระได้ นี่ก็หมายความว่า  DCEP เหมือนธนบัตรสามารถหมุนเวียนได้ นี่ก็คือทำไมเราถึงพูดว่า คุณสามารถเข้าใจง่ายๆว่า "มันคือธนบัตรที่แปรเปลี่ยนเป็นดิจิตอล"


สกุลเงินดิจิตอลของธนาคารกลางเป็นสกุลเงินตามกฎหมาย เหมือนเงินสด สกุลเงินดิจิตอลของธนาคารกลางก็มีนิติวิทยาศาสตร์ที่ไม่จำกัดเช่นกัน หมายความว่าคุณไม่สามารถปฏิเสธไม่รับ DCEP ถ้าหากในอนาคต "เงิน"ของเราทั้งหมดเบิกจ่ายด้วยสกุลเงินดิจิตอลเช่นนี้แล้วก็ไม่มีใครสามารถหลบเลี่ยงภาษีได้ เส้นทางการเงินใดๆล้วนถูกควบคุมตรวจสอบได้
      ข้างต้นเรากล่าวว่าสกุลเงินดิจิตอล สามารถช่วยให้สกุลเงินของจีนก้าวออกนอกประเทศได้นั้น ก็เพราะถูกกำหนดจากลักษณะพิเศษข้างต้นของสกุลเงินดิจิตอล มิพักต้องสงสัย  สกุลเงินดิจิตอลเป็นแนวโน้มของอนาคต มันล้ำเลิศกว่าธนบัตรดั้งเดิมมากมาย  

   จีนแผ่นดินใหญ่ในปัจจุบันแม้ในเขตเขาที่ห่างไกล ก็ยังสามารถใช้ Alipay และ WeChat ได้ นี่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลอันน่าตกใจของการชำระเงินด้วยมือถือ  ในทางเป็นจริงบริษัทของจีนก็เริ่มเผยแพร่สินค้าที่ชำระเงินด้วยมือถือของตนในต่างประเทศ แล้ว แต่สินค้าเหล่านี้เทียบกับเงินตราดั้งเดิมแล้ว  ยังมีข้อจำกัดชนิดต่างๆมากมาย เป็นต้นว่าต้องผูกติดกับบัตรเครดิตธนาคาร ต้องมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตเป็นต้น  

    แนวโน้มของสังคมในอนาคตก็คือ การร่วมมือของกลุ่มเดียวกันแต่ละกลุ่มจะค่อยๆแนบแน่น ความเป็นเอกภาพของเงินตราในอนาคตเป็นสิ่งที่ยากมาก แต่ว่าตอนนี้สกุลเงินดิจิตอลออกมาแล้ว ประเทศจีนถืออาวุธอันคมกริบนี้ เพื่อนพ้องน้องพี่ที่อยู่รอบๆพากันแนบชิดประเทศจีน 
      แล้วข้างต้นที่เราพูดถึงว่าสกุลเงินดิจิตอลสามารถโค่นอำนาจครองความเป็นเจ้าของทางการเงินของอเมริกาที่จริงแล้วเหตุผลง่ายๆ อำนาจเป็นเจ้าทางการเงินของอเมริกาสร้างอยู่บนพื้นฐานอะไร สร้างอยู่บนพื้นฐานที่อเมริกาสามารถปล่อยเงินตราสู่ทั่วโลกเกินขีดจำกัดอย่างไม่ต้องเกรงใจใคร ก่อนหน้านี้อเมริกาไม่ยอมรับว่าปล่อยเงินตราออกมาเกินขีดจำกัด ล้วนมุบๆ มิบๆ พิมพ์เงินออกมาจำนวนมาก
     ไม่มีใครสามารถมุดเข้าไปควบคุมในโรงพิมพ์ธนบัตรของอเมริกา แต่ว่าเมื่อทุกคนหันมาใช้สกุลเงิน ดิจิตอลแล้ว เป็นเงินเท่าไหร่ล้วนมีตัวเลขบันทึกไว้ ถ้าท่านปล่อยเงินออกมาเกินแค่เหรียญเดียวล้วนสามารถตรวจสอบได้  

       ถึงเวลาท่านปล่อยเงินออกมาเกินขีดจำกัด ถ้าอย่างนั้นก็ขอโทษที ประเทศอื่นๆก็จะมองเห็นโฉมหน้าแท้จริงของคุณ ไม่เล่นกับคุณแล้ว เงินเหรียญสหรัฐไม่มีคนใช้ อำนาจครองความเป็นเจ้าก็หมดเป็นธรรมดา ฉะนั้นอเมริกาจึงร้อนใจ  ความจริงอเมริกาคิดอยู่ตลอดจะปล่อยสกุลเงินดิจิตอลของตัวเองออกมา แต่ว่าเทคโนโลยีของทางการอเมริกาด้อยเกินไป ได้แต่ปล่อยให้อุตสาหกรรมเอกชนไปทำเรื่องนี้แต่ว่าเรื่องนี้มันใหญ่โตมหาศาลเกินไป ทางการอเมริกาเกรงว่าอุตสาหกรรมเอกชนจะหลุดจากการควบคุมของตน ก็ภายใต้การยื้อยุดฉุดกระชากนี้เอง ได้เปิดโอกาสให้จีนสามารถแซงรถทางโค้ง ทำให้จีนสามารถนำหน้าพัฒนาสกุลเงินดิจิตอลออกมาก่อน
     ถ้าอย่างนั้นสกุลเงินดิจิตอลของอเมริกาใครเป็นคนพัฒนา  ก็คือบริษัทโซเชียลอินเตอร์เน็ต Facebook ที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา วันที่ 18 มิถุนายน 2019  Facebook ประกาศออกสมุดปกขาว ประกาศว่าจะเปิดตัวสกุลเงินเข้ารหัสลับ ไลบรา เหมือนโยนก้อนหินก้อนใหญ่ลงในสระน้ำ ใหญ่โตมโหฬารมาก ฝูงนกเป็ดน้ำตกใจบินว่อน ละลอกคลื่นซัดยาวไม่ถอย

ไลบราเทียบกับสกุลเงินดิจิตอลของจีนมีพิเศษตรงไหน
1.สกุลเงินเข้ารหัสลับที่เครือข่ายยักษ์ใหญ่รายแรกของโลกริเริ่มนั้น นอกจาก Facebook แล้วยังมีวีซ่าซ่ PayPal อูเบอร์ องค์กรใหญ่ใหญ่หลาย องค์กรเข้าร่วมด้วย
2. สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์
3. มีสมอ ต้องเกาะเกี่ยวอยู่กับตะกร้าเงินฝากหรือพันธบัตรรัฐบาล เงินเหรียญสหรัฐ เงินปอนด์อังกฤษ เงินยูโรและเงินเยนญี่ปุ่นและเงินตราแบบนี้ไม่มีทรัพย์สินใดๆเป็นตัวค้ำยัน
4. Facebook มีเครือข่ายสังคมออนไลน์ 2,400,000,000 เครือข่าย ยังมีบริษัทวีซ่าเป็นต้นหนุนช่วย ความเร็วในการเผยแพร่จะเหมือน WeChat แจกอังเปาในวันตรุษจีน เป็นที่เด่นชัดว่าไลบราหวังจะสร้างระบบสกุลเงินดิจิตอลอันมหึมา สร้างอำนาจครองความเป็นเจ้าทางการเงินของอเมริกาในยุคดิจิตอล มีความละโมภยิ่งกว่า Alipay และ WeChat เป็นไหนๆ ล้อมรอบกับไลบรา ได้มีการประชุมพิจารณามาหลายครั้งแล้ว
         หัวข้อการพิจารณาครั้งล่าสุดของสภาผู้แทนอเมริกาในวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ตรวจสอบผลกระทบของ Facebook ที่มีต่อการให้บริการทางการเงินและกิจการที่อยู่อาศัย โฟกัสที่แท้จริงมีเพียงหนึ่งเดียวคือ ไลบรา ผู้ที่ไปฟังการพิจารณามีคนเดียวคือ จาคเกอร์แบร์ก ในการพิจารณาครั้งนี้ จาคน้อยโหมโจมตีแบรนด์จีน แข่งขันการเงินดิจิตอลระหว่างบริษัทจีนและระหว่างจีนอเมริกา ว่าเป็นแรงผลักดันสำหรับเขา
     เขาบอกว่าประเทศจีนกำลังใช้ปฏิบัติการอันรวดเร็ว ผลักดันโครงการที่คล้ายคลึงกับ "ไลบรา" ไลบราไม่ทำ สกุลเงินดิจิตอลของธนาคารกลางจีนจะทำไลบราจะยกฐานะการนำทางการเงินแก่อเมริกาช่วยอเมริกาส่งออกค่านิยมไปยังท้องที่ต่างๆทั่วโลกคู่ต่อสู้ของจาคเกอร์เเบร์กคือบริษัทจีน บริษัทจีนจะเป็นคู่แข่งที่สำคัญ ผมมีเหตุผลมีหลักฐานสงสัยโครงการประเภทนี้ สามารถส่งผลต่ออำนาจการนำในปริมณฑลทางการเงินของชาวอเมริกัน
        ตลอดจนความสามารถในการกำหนดบทลงโทษของเราในขอบเขตทั่วโลก  ถ้าหากระบบการเงินของจีนกลายเป็นมาตรฐานของประเทศต่างๆมากขึ้น ถ้าอย่างนั้นในอนาคตเราก็ยากจะกำหนดบทลงโทษและมาตรการป้องกันที่ต่างๆได้ 

      จาคเกอร์เเบร์ก เห็นว่าคู่ต่อสู้ที่แข็งขันดิจิตอลของอเมริกาก็คือประเทศจีน เขาให้ความสนใจทุกอากัปกิริยาของจีน เขาบอกว่าภายหลังประกาศสมุดปกขาวเรื่องไลบราแล้ว ทางจีนก็ได้ทดลองเงินหยวนจีนฉบับดิจิตอลทันทีอีกทั้งเตรียมใช้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 1แถบ 1 เส้นทาง และจะเปิดตัวภายหลังจากนี้ไม่กี่เดือน  การเร่ขาย "ความวิตกกังวล" ของจาคเกอร์เเบร์กประสบความสำเร็จมาก และก็เป็นการเผยให้เห็นความคิดที่แท้จริงของอเมริกา คือดำเนินสงครามการเงินดิจิตอลกับประเทศจีน นอกจากช่วงชิงอำนาจเจ้าการเงินดิจิตอลใหม่กับประเทศจีนแล้ว เงินบิทคอยน์ที่จีนกับอเมริกาปฏิบัติต่อก่อนหน้านี้ กลับมีท่าทีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อสกุลเงินบล็อกเชนชนิดนี้อย่างน่าแปลก เพราะอะไร ???....เพราะว่ามันได้กระทบเค้กก้อนใหญ่ที่สุดของรัฐบาล 
      ถ้าอย่างนั้นสกุลเงินDCEP ดิจิตอลของจีน กับสกุลเงินบิทคอยน์ต่างกันอย่างไร ?? วันนี้ผมจะอธิบายต่อผู้ชมให้แจ่มชัด   ความจริง DCEP กับบิทคอยน์เป็นสรรพสิ่งของคนละโลก  
DCEP โดยธาตุแท้แล้วยังคงเป็นเงินหยวน เพียงแต่ว่าเป็นเงินหยวนฉบับแปรเป็นดิจิตอล

         ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ DCEP จะท้าทายเงินบิทคอยน์ กล่าวให้แม่นยำยิ่งขึ้น ก็คือ เงินบิทคอยน์มีความเป็นไปได้ไหมที่จะท้าทายเงินตามกฏหมายทั้งหมด รวมทั้งเงินตามกฏหมายฉบับแปรเป็นดิจิตอลเงินบิทคอยน์อันเป็นเงินตราสมมติเหมือนเงินตราส่วนตัวชนิดหนึ่งมากกว่า  ไม่มีพื้นฐานทางเครดิตที่มั่นคงเงินบิทคอยน์ขาดกลไกการควบคุมจากส่วนกลางไม่เพียงแต่ยากจะสนองนโยบายด้านการเงินกระทั่งไม่สามารถรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน  หลายปีมานี้ค่าเงินแข็งขึ้นและอ่อนลงอย่างฮวบฮาบ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว 
      ดังนั้นเทียบ DCEP กับเงินบิทคอยน์กับเงินตราอื่นๆ และสกุลเงินเข้ารหัสลับเป็นเรื่องของคนโลกโดยสิ้นเชิง DCEPไม่ใช่หน่วยหนึ่งของสกุลเงินเข้ารหัสลับ ไม่มีลักษณะเก็งกำไร ไม่มีความสัมพันธ์โดยตรงกับตลาดสกุลเงินเข้ารหัสลับ สกุลเงินรูปใหม่เข้าสู่สายตาของผู้คน แต่ว่าเบื้องหลังกับเกิดการเปลี่ยนแปลงชนิด "พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน"       การทดลองหมุนเวียนของมันหากสอดคล้องกับกฎภววิสัยและแนวโน้มการพัฒนาของสรรพสิ่ง ย่อมต้องมีพลังชีวิตอันมหาศาลและอนาคตอันกว้างไกล การเจริญอย่างทั่วด้านของการปฏิรูปเทคนิคและเศรษฐกิจเป็นแบบดิจิตอ ล  ทำให้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเปลี่ยนจากตัวแสดงที่เป็นเครื่องมือแต่เดิม กลายเป็นพลังที่เป็นแกนผลักดันการปฏิรูปการเงิน      ขั้นตอนต่อไปของคลื่นดิจิตอลก็คือ DCEP ปัญญาประดิษฐ์บริการคราวด์ทางการเงิน  เงินฝากบล็อกเชนเป็นต้น ภายใต้การผลักดันของเทคโนโลยีใหม่กิจการด้านการเงินย่อมจะวิวัฒนาการไม่ขาดสาย 
เมื่อDCEP เเพร่หลายเราก็อาจเข้าสู่ยุคดิจิตอลใหม่อีกยุคหนึ่ง


https://www.youtube.com/channel/UCAQianidBpoX7QHWGio43ng