ทำความรู้จัก เงินดิจิตอล (Cryptocurrency)
สกุลเงินดิจิทัลหรือ CryptoCurrency ถือเป็นนวัตรกรรมใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นบนโลกประมาณปี 2008 หรือสิบปีที่ผ่านมา โดยเริ่มจากสกุลแรกก็คือ Bitcoin ก่อนจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจนเพิ่มเป็นพันกว่าสกุลในช่วงที่กระแสตื่นตัวมากที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการระดมทุนที่เรียกว่า ICO (Initial Coin Offering)
หากสงสัยว่า Crypto Currency ต่างจากสินค้าการลงทุนอื่นอย่างไร เรามาทำความรู้จักสินค้าการลงทุนที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันก่อน อย่างเช่น อัตราแลกเปลี่ยน (Forex) ก็คือสกุลเงินของแต่ละประเทศที่ซื้อขายกันเป็นคู่ เช่น USD/EUR USD/JPY หรือทองคำ ก็เป็นสินทรัพย์ที่ทั่วโลกยอมรับในการแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ หรือน้ำมันก็เป็นแหล่งพลังงานที่ใช้ราคาซื้อขายเดียวกันทั่วโลก
แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ถูกสร้างขึ้นโดยมีตัวกลางหรือผู้ควบคุมดูแลราคา อย่างเช่นอัตราแลกเปลี่ยนจะถูกควบคุมราคาโดยธนาคารกลางของแต่ละชาติ บางประเทศสามารถควบคุมดีมานด์ซัพพลายได้ เช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯที่สามารถพิมพ์ธนบัตรได้เอง หรือราคาน้ำมันที่มีกลุ่มโอเปคควบคุมดูแล (หรือเป็นเจ้ามือเอง)
“แต่สำหรับ CryptoCurrency เป็นสินค้าการลงทุนที่เกิดขึ้นมาโดยกำจัดตัวกลางหรือผู้ควบคุมดูแลออกไป ภายใต้คอนเซบท์กระจายศูนย์กลางหรือ Decentralize”
พูดง่ายๆคือ Crypto Currency ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มดิจิทัลผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่า Blockchain ทุกคนสามารถซื้อขายและเป็นเจ้าของได้ผ่านแพลตฟอร์มที่เรียกว่า Exchange (ทำหน้าที่คล้ายตลาดกลางซื้อขาย แต่ไม่ได้ควบคุมราคาและดีมานด์ซัพพลาย)
ส่วน Crypto Currency ที่เกิดจากการระดมทุนด้วย ICO มีคุณค่าในตัวเองด้วยลักษณะการนำไปใช้งานเหมือนกับหุ้นที่มีคุณค่าในตัวเองด้วยรูปแบบธุรกิจ
แม้หน้าที่ของ Crypto Currency จะมีประโยชน์ในเชิงการใช้งาน แต่ต้องยอมรับว่าในช่วงปี 2017 ที่ผ่านมา CryptoCurrency ถูกยกให้เป็นสินค้าการลงทุนอย่างหนึ่งด้วยรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาที่มีความผันผวนสูงเหมาะกับการเก็งกำไร
รูปแบบการลงทุนใน Crypto Currency มีหลายรูปแบบ เช่น
Crypto Currency จึงเป็นสินค้าที่ไม่มีตัวตนที่เป็น Physical (จับต้องไม่ได้) แต่มีคุณค่าในตัวเองในแง่ของคุณประโยชน์ในการนำไปใช้งาน เช่น Bitcoin มีคุณค่าในการที่จะใช้จ่ายแทนเงิน ,Etherium มีคุณค่าในการนำไปใช้สร้าง Smart Contract, Ripple มีคุณค่าในการใช้เป็นสื่อกลางในการโอนเงิน ฯลฯ
หนึ่ง..ลงทุนในตลาดแรกผ่าน ICO คล้ายกันการลงทุนในหุ้น IPO
สอง..ลงทุนผ่านตลาดรองหรือซื้อขายผ่าน Exchange ในกรณีที่เราไม่ได้ลงทุนผ่านตลาดแรก
สาม..ลงทุนด้วยการขุด (Mining)
ปัจจุบันได้มีนักลงทุนจำนวนมากทั้งรายบุคคลและสถาบันเข้ามาในตลาด Crypto Currency มากขึ้น ได้เกิดเศรษฐีหน้าใหม่ขึ้นจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกันก็มีผู้ที่เสียหายจำนวนมากด้วยเช่นกัน ผู้ที่สนใจลงทุนจึงควรศึกษาหาความรู้อย่างรอบด้าน โอกาสที่จะสร้างผลกำไรก็จะมีสูงขึ้น