วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2562

จีนเตรียมออกเงินดิจิตอลของตนเอง





จีนเตรียมออกเงินดิจิตอลของตนเอง


ธนาคารกลางของจีน (People’s Bank of China :PBOC)  Central Bank of the People's Republic of China กำลังพัฒนาเงินดิจิตอลของตนเองขึ้นมา นับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน และจะเป็นคู่แข่งบนแพลตฟอร์ม Consumer Payment อื่นอย่างเช่น Alipay, WeChat 
ทีมค้นคว้าวิจัยของธนาคารกลางของจีนได้เริ่มวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาเงินดิจิตอลมาตั้งแต่     ปี 2014 และได้เริ่มประสบความสำเร็จ โดยได้ทดลองใช้งานต้นแบบเงินดิจิตอลที่พัฒนาขึ้นมาแล้ว นี่ทำให้การพัฒนาเงินดิจิตอลเพื่อใช้งานจริงใกล้ประสบความสำเร็จ และจะทำให้ธนาคารกลางของจีน เป็นธนาคารกลางแรกของโลก ที่สร้างเงินดิจิตอลขึ้นใช้ เป็นเงินดิจิตอลที่สามารถซื้อได้ทุกสิ่ง ตั้งแต่บะหมี่ไปจนถึงรถยนต์ และอื่นๆ 

ข้อดีของการใช้เงินดิจิตอล มีหลายประการเช่น ไม่ต้องใช้เงินจริงไม่ว่าจะเป็นธนบัตร หรือเหรียญ ในการซื้อสินค้าอีกต่อไป และไม่ต้องอาศัยตัวกลางอย่างเช่น บัตรเครดิต เดบิต ของธนาคารในการซื้อขายสินค้า ทำให้ลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการใช้คนกลาง ผู้ซื้อ ผู้ขาย สามารถซื้อขายสินค้าทางออนไลน์หรือแม้แต่ออฟไลน์ได้โดยตรง ด้วยเงินดิจิตอล 

สำหรับธนาคารกลางจีน ที่สร้างสกุลเงินดิจิตอลขึ้นนี้ จะส่งให้กับธนาคารต่างๆ ซึ่งผู้บริโภคสามารถ top up สกุลเงินจากตู้ฝาก-ถอนอัตโนมัติไปที่กระเป๋าเงินดิจิตอลของตนบนสมาร์ทโฟน และ Smart Devices อิ่นๆ ทำให้การซื้อชายสินค้าทำได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ทางออนไลน์หรือออฟไลน์ คือ การซื้อสินค้าจากร้านค้าทั่วไป 

นอกจากจีนแล้ว ยังมีอีกหลายประเทศ เช่น อินเดีย, แคนาดา, เนเธอร์แลนด์, สิงคโปร์ ก็มีความตั้งใจจะสร้างเงินดิจิตอลขึ้นมาใช้งานเช่นกัน สำหรับจีน การพัฒนาเงินดิจิตอลขึ้นมาใช้งานนั้น น่าจะสอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวจีนมาก เพราะผู้บริโภคชาวจีนมีการใช้จ่ายเงินในการซื้อสินค้าด้วยเงินดิจิตอลในรูปแบบต่างๆอยู่แล้ว เช่น Alipay, WeChat และรวมไปถึง Bitcoin

สำหรับเงินดิจิตอลของจีนที่กำลังจะนำออกมาใช้งานนี้ พัฒนาขึ้นบนเทคโนโลยี Blockchain เช่นเดียวกับเงินดิจิตอล Bitcoin ที่โด่งดัง (เคยมีรายงานข่าวว่าคนจีนในประเทศจีนใช้เงินดิจิตอล Bitcoin มากที่สุดในโลก)

การประกาศการพัฒนาเงินดิจิตอลขึ้นใช้งานของธนาคารกลางจีนนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อธนาคารทั่วไปในจีน รวมถึงบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ Consumer Psyment อย่าง Alibaba (Alipay) และ Tencent (WeChat) ซึ่งทำให้ทั้งธนาคารและบริษัทเหล่านี้ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ใหม่ของธนาคารกลางจีนในเรื่องเงินดิจิตอล ซึ่งโดยศักยภาพของพวกเขา ย่อมทำได้แน่นอน เพราะทั้งธนาคารต่างๆในจีนและบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านั้นต่างก็มีเครื่องมือ มีเทคโนโลยีอยู่แล้ว

ผลกระทบอีกส่วนหนึ่งที่เกิดจากการสร้างระบบเงินดิจิตอลของธนาคารกลางจีนคือ เงินดิจิตอล Bitcoin นั่นเอง และดูเหมือน Bitcoin จะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ธนาคารกลางจีนต้องสร้างเงินดิจิตอลของตนเองขึ้นมาด้วย 

การที่คนจีนในประเทศจีนมีการใช้เงินดิจิตอล Bitcoin มากที่สุดในโลก (บางข้อมูลว่า 77 เปอร์เซนต์ของ เงิน Bitcoin ทั่วโลก ถูกใช้โดยคนจีนในประเทศจีน) ซึ่งภาวะการณ์เช่นนี้จะกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนในระยะยาวแน่นอน   
ผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วคือ การใช้ เงิน Bitcoin ของคนจีนทำให้เงินทุนไหลออกนอกประเทศจีน ซึ่งปล่อยเวลานานไปไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจจีนอย่างแน่นอน

การสร้างเงินดิจิตอลของจี
นเองโดยธนาคารกลางจีน จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะสกัดรวมทั้งลดการใช้เงิน Bitcoin ของคนจีนในประเทศจีนลง รวมทั้งที่สุดแล้ว ให้คนจีนเปลี่ยนจากการใช้ Bitcoin มาใช้เงินดิจิตอลของจีนเองทั้งหมด  ถ้าธนาคารกลางจีนสามารถทำสำเร็จในเรื่องนี้ จะส่งผลกระทบต่อค่าเงิน Bitcoin อย่างมหาศาล และอาจจะทำให้ค่าเงิน Bitcoin ตกลงไปมาก (ปัจจุบันค่าเงินดิจิตอล Bitcoin กำลังสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากประมาณ 900 ดอลลาร์ต่อ 1 Bitcoin เมื่อปลายปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1,190 ดอลลาร์แล้ว)

ดังนั้น เรื่องการสร้างระบบเงินดิจิตอลของตนเองของธนาคารกลางจีน จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ถ้าประสบความสำเร็จ แน่นอนว่า จะทำให้ธนาคารกลางของประเทศต่างๆทั่วโลก หันมาให้ความสำคัญกับการสร้างระบบเงินดิจิตอลของตนเองอย่างจริงจัง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดยุคของใช้เงินจริงที่เป็นเหรียญ และกระดาษที่เรารู้จักกันดี เงินในอนาคตจะเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของเลขฐานสอง คือ 0 กับ 1 เท่านั้น










ธนาคารกลางจีนกล่าวอย่างเป็นทางการว่าหยวนดิจิทัลจะแตกต่างจาก Bitcoin


สำนักข่าวจีน South China Morning Post รายงานเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมว่าหัวหน้าสถาบันวิจัยสกุลเงินดิจิทัลที่ PBoC กล่าวว่าสกุลเงินดิจิทัลของจีนจะเป็นรูปแบบดิจิทัลของเงินหยวนโดยไม่มีการเก็งกำไรมูลค่าและไม่มีการสำรองของตะกร้าสกุลเงิน Mu อธิบาย:
สกุลเงินนี้ไม่ใช่เพื่อการเก็งกำไร มันแตกต่างจาก Bitcoin หรือโทเค็น (Token) ซึ่งสามารถใช้สำหรับการเก็งกำไรหรือต้องการการสนับสนุนตะกร้าสกุลเงิน
Mu ระบุว่าสกุลเงินดิจิทัลใหม่ของจีนจะดำเนินการในระบบ 2 ระดับโดยมี PBoC อยู่เหนือสุดและอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ในชั้นสองของระบบรวมศูนย์
PBoC เริ่มทดลองเพื่อจำกัดธุรกรรมเงินสดจำนวนมาก
ในเดือนพฤศจิกายนธนาคารประชาชนประกาศว่าจะดำเนินการนำร่องโดยมีข้อจำกัดในการทำธุรกรรมเงินสดขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีอายุ 2 ปีและจะดำเนินการตามขั้นตอนในมณฑลเหอเป่ยจังหวัดเจ้อเจียงและเมืองเซินเจิ้น
ในเดือนเดียวกัน Mu ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าจีนไม่ได้ทำสงครามด้วยเงินสดโดยการแนะนำสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง ซึ่งปักกิ่งมุ่งมั่นในการสร้างสกุลเงินใหม่เพื่อส่งเสริมหยวนกระดาษ
ตัวนำร่องในโลกแห่งดิจิทัลหยวน
ในขณะเดียวกันธนาคารกลางจีนกำลังเร่งดำเนินการเปิดตัวโทเค็นดิจิทัลเพื่อท้าทายเงินเหรียญสหรัฐ เนื่องจากกำลังวางแผนที่จะทดสอบสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางก่อนสิ้นปี 2019 ภายใต้การจับตาของ PBoC ธนาคารใหญ่ 4 แห่งและผู้เข้าร่วมหลักทางเศรษฐกิจอย่าง China Telecom ที่จะรายงานการทดสอบการชำระเงินในสกุลเงินดิจิทัล
**********************************