การเรียนการสอนสำคัญเสมอไม่ว่ายุคใดสมัยใด
ครูมีบทบาทสำคัญที่สุด
ครูมีบทบาทสำคัญที่สุด
การสอนสังคมศึกษาแนวใหม่ ชื่อหัวเรื่องอาจอ่านแล้วดูดี ในความเป็นจริงไม่มีอะไรใหม่หรอกนะคะ การสอนเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ครูผู้สอนจะต้องประมวลความรอบรู้ของตนเอง ผนวกกับการเสาะแสวงหาวิธีการต่างๆมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของนักเรียน และสภาพแวดล้อมของโรงเรียนของตนเอง ผู้เขียนเป็นเพียงครูคนหนึ่งที่เขียนตามประสบการณ์จากการสอนหนังสือมามากกว่า ๓๐ ปีจากอดีตที่เคยเน้นให้นักเรียนท่องจำ เคยพร่ำสอนเราให้ปรับเปลี่ยนวิธีการสอน ต้องขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ทุกท่านอย่างสูงยิ่งที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้มาให้ทำให้ใช้ได้อย่างดียิ่งมาถึงปัจจุบัน
จากประสบการณ์พบว่าควรเริ่มต้นให้เขาได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงก่อน หากเริ่มจากสิ่งที่เขาเคยเรียนรู้มาเขาจะตอบได้และเริ่มสนุกแล้วซิ เมื่อนักเรียนเริ่มสนุกกับการเรียนคราวนี้ครูจะสอดแทรกอะไรเข้าไปก็จะไปได้อย่างสบาย จะให้เขาจดจำในภายหลังยิ่งดี ก็ครูเก่านี่ค่ะยังคงปรารถนาให้นักเรียนจำอยู่ดี เพราะเมื่อมีความรู้จำได้ย่อมนำไปวิพากย์ได้อย่างมากมาย
สิ่งสำคัญที่ครูพึงตระหนักให้มากก็คืออย่ายัดเยียดความรู้ให้กับเขา ให้เขาได้เรียนรู้ตามศักยภาพ บางครั้งในห้องเดียวกันมีทั้งคนเก่งและคนไม่เก่ง รวมทั้งคนที่เรียนปานกลางที่ไม่ค่อยสร้างปัญหาที่ครูมักทอดทิ้งไม่ค่อยสนใจเขา ครูทั่วไปมักสนใจเด็กที้เรียนเก่งเพราะช่วยครูได้หลายอย่าง สอนก็ง่าย ให้ทำอะไรก็ทำได้ กับเด็กที่แย่ที่ครูจะสนใจเป็นพิเศษเพราะเป็นตัวป่วนทำให้การสอนมักวุ่นวายเพราะพวกเขา เด็กที่เรียนปานกลางไม่เคยสร้างปัญหาใดครูมักไม่สนใพวกเขามากนัก
จากประสบการณ์พบว่าควรเริ่มต้นให้เขาได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงก่อน หากเริ่มจากสิ่งที่เขาเคยเรียนรู้มาเขาจะตอบได้และเริ่มสนุกแล้วซิ เมื่อนักเรียนเริ่มสนุกกับการเรียนคราวนี้ครูจะสอดแทรกอะไรเข้าไปก็จะไปได้อย่างสบาย จะให้เขาจดจำในภายหลังยิ่งดี ก็ครูเก่านี่ค่ะยังคงปรารถนาให้นักเรียนจำอยู่ดี เพราะเมื่อมีความรู้จำได้ย่อมนำไปวิพากย์ได้อย่างมากมาย
สิ่งสำคัญที่ครูพึงตระหนักให้มากก็คืออย่ายัดเยียดความรู้ให้กับเขา ให้เขาได้เรียนรู้ตามศักยภาพ บางครั้งในห้องเดียวกันมีทั้งคนเก่งและคนไม่เก่ง รวมทั้งคนที่เรียนปานกลางที่ไม่ค่อยสร้างปัญหาที่ครูมักทอดทิ้งไม่ค่อยสนใจเขา ครูทั่วไปมักสนใจเด็กที้เรียนเก่งเพราะช่วยครูได้หลายอย่าง สอนก็ง่าย ให้ทำอะไรก็ทำได้ กับเด็กที่แย่ที่ครูจะสนใจเป็นพิเศษเพราะเป็นตัวป่วนทำให้การสอนมักวุ่นวายเพราะพวกเขา เด็กที่เรียนปานกลางไม่เคยสร้างปัญหาใดครูมักไม่สนใพวกเขามากนัก
วิธีสอนวิธีหนึ่งที่ขอนำเสนอในครั้งนี้อาจจะไม่ใหม่หรอกนะคะ ตั้งชื่อให้น่าสนใจไปอย่างนั้นเอง เพราะในความเป็นจริงไม่มีวิธีการสอนอะไรที่ใหม่ มีแต่ว่าเรานำอะไรมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับเด็กของเรามากกว่า ขอเสนอวิธีหนึ่งคือการให้เด็กๆได้เรียนรู้จากการสืบเสาะแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง โดยครูเป็นผู้คอบกระตุ้นเตือนและคอยเสริมแรง เริ่มต้นแบบนี้นะคะ
๑. ตั้งประเด็นที่เขาสนใจให้อภิปรายร่วมกันถึงปัญหาในปัจจุบันว่ามีปัญหาอะไรบ้างในสังคมที่เขาอาศัยอยู่ โดยให้สมาชิกแต่ละคนนำเสนอปัญหา สมาชิกในกลุ่มเลือกปัญหาที่เห็นว่าสำคัญที่สุดมา ๑ ปัญหา
๑. ตั้งประเด็นที่เขาสนใจให้อภิปรายร่วมกันถึงปัญหาในปัจจุบันว่ามีปัญหาอะไรบ้างในสังคมที่เขาอาศัยอยู่ โดยให้สมาชิกแต่ละคนนำเสนอปัญหา สมาชิกในกลุ่มเลือกปัญหาที่เห็นว่าสำคัญที่สุดมา ๑ ปัญหา
๒. ช่วยกันระดมพลังสมอง หาสาเหตุและแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหา พร้อมมอบหมายสมาชิกให้ไปค้นหาข้อมูลมาเพิ่มเติม
๓. นำข้อมูลที่ไปศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมมานำเสนอกันในกลุ่ม พร้อมทั้งสรุปแนวทางป้องกันและแก้ๆไขปัญหา
๔. สรุปองค์ความรู้ที่ได้รับ และคิดวิธีการนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนว่าจะนำเสนออย่างไร รวมทั้งวิธีการที่จะนำข้อมูลที่ตนเองสรุปเพื่อให้ความรู้แก่เพื่อนๆได้อย่างไร
๕. ให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลงาน
๖. ครูและนักเรียนกลุ่มอื่นๆร่วมกันให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม และร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้รับ
อย่าลืมการวัดผลประเมินผลนะคะ ประเมินระหว่างเรียนโดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ และประเมินผลการเรียนรู้ในองค์ความรู้โดยใช้แบบทดสอบ
ผู้เขียนคิดว่าวิธีการนี้น่าสนใจเพราะตนเองได้ใช้บ่อยๆและทุกครั้งที่ใช้วิธีการนี้ เด็กๆเขาเรียนกันอย่างสนุกสนาน...แต่มีข้อสังเกตบางประการที่ขอบอกนะคะ ถ้าควบคุมไม่ดี อาจออกนอกทางไปไกลครูต้องคอยคุมเกมให้ดีอย่าให้ออกนอกหลักสูตรมากนัก จะกลายเป็นสนุกแต่สอนไม่ทันหรือไม่ตรงตามหลักสูตร
ครั้งนี้คงเสนอเพียง ๑ วิธีนะคะไม่ได้ตั้งชื่อวิธีสอนด้วยเพราะเป็นการเสาะแสวงหาความรู้รูปแบบหนึ่ง แล้วจะพยายามประมวลประสบการณ์เขียนใหม่ในโอกาสต่อไปนะคะ ยินดีรับข้อเสนอแนะจากคุณครูหรือผู้มีประสบการณ์ทุกท่านนะคะ