วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

TOEFL

TOEFL


TOEFL ย่อมาจาก Test of English as a Foreign Language

TOEFL อ่านออกเสียงว่า โทเฟิล หรือ โทเฟล


TOEFL เป็นการทดสอบความสามารถเพื่อประเมินความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ ในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาประจำชาติ โดยเป็นการสอบแบบมาตรฐาน ที่วัดความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ต้องการเข้าศึกษาต่อกับสถาบันการศึกษาในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางของการเรียนการสอนโดยมีจัดการสอบเป็นแบบปรนัยเพื่อวัดความเข้าใจภาษาอังกฤษ (แบบอเมริกา)

การสอบ TOEFL ในอดีตประกอบด้วย 2 แบบคือ

1.การสอบแบบที่ใช้กระดาษในการทำข้อสอบ (Paper-Based Testing:PBT)
2.การสอบที่ใช้คอมพิวเตอร์ทำข้อสอบ (Computer-Based Testing:CBT)

จนกระทั่งในปี 2005ได้เปลี่ยนแปลงการสอบให้สอบผ่านอินเตอร์เน็ต Internet-Based Testing: IBT
โดยเลิกใช้การสอบทั้ง 2 แบบไปเรื่อยๆ จนกว่าการสอบผ่านอินเตอร์เน็ตจะแพร่หลายมากขึ้นและยกเลิกไปในที่สุด

ในประเทศไทยมีการสอบแบบระบบ IBTแล้วในกรุงเทพ ส่วนที่อื่นๆยังใช้ระบบ PBT ก็จะเปลี่ยนไปใช้ระบบอินเตอร์เน็ตในไม่ช้านี้ ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการเปลี่ยนระบบมาเป็นการสอบในระบบใหม่นั้น เพราะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจะพบว่าการสอบ TOEFL จะมีการเปลี่ยนแปลงและมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อลบจุดบอดบางส่วนของเด็กต่างชาติที่ต้องการเรียนต่อในต่างประเทศ

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงเป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาการสอบ TOEFL สำหรับทั่วโลก โดย ETS (Education Testing Service) ต้นสังกัดของการจัดสอบได้อธิบายเกี่ยวกับการจัดสอบ TOEFL ระบบใหม่ดังนี้

การสอบแบบ IBT เป็นการสอบทักษะแบบบูรณาการ เป็นการสอบที่ต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษทั้งการพูด ฟังอ่าน และเขียนในการสอบ โดยการสอบในแต่ละส่วนจะเชื่อมโยงกันหมด ผู้สอบจะต้องตั้งใจฟังสิ่งที่เค้าพูดทั้งหมด เพราะหมายความว่าเราจะตอบพูด หรือเขียนไม่ได้เลยถ้าไม่ตั้งใจฟังตั้งแต่แรก

การสอบแบบใหม่ช่วยลบจุดด้อยของนักศึกษาต่างชาติบางคนที่ได้คะแนนสอบดีแต่ไม่สามารถสื่อสาร นำเสนองานผ่านการพูดจาเป็นภาษาอังกฤษได้ดีอย่างที่ควรเป็น การสอบครั้งใหม่นี้จึงเหมือนการจำลองการเข้าไปศึกษาจริงในสถาบันการศึกษาต่างๆที่อาจารย์ได้พูดถึงบทเรียนต่างๆและการให้การบ้านเพื่อให้ทำรายงานและนำเสนอต่อหน้าอาจารย์เรียกว่าการสอนในระบบใหม่นี้มาได้ใช้เพียงทักษะด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้นในการสอบแต่ละส่วนแต่การสอบในแต่ละส่วนในส่วนต้องใช้ทักษะอื่นด้วย เช่น การสอบข้อเขียน ต้องฟังสิ่งที่เขาพูด หรือสิ่งที่เค้าให้มาตั้งแต่เริ่มสอบจนเข้าใจเสียก่อนที่จะเขียนตอบได้ไม่ใช่ให้เขียนตามโจทย์ที่ให้มาแบบ Essay ในแบบเดิมอีก ซึ่งระบบใหม่ทำให้รับรู้ถึงทักษะทางภาษาอังกฤษของแต่ละคนอย่างแท้จริง

ในส่วนของข้อดีในการใช้ระบบอินเตอร์เน็ตเข้ามาช่วยในการสอบ อาทิ ความสะดวกในการสอบเพราะมีศูนย์สอบเพิ่มขึ้น ส่วนการสอบ Speaking จะส่งถึงศูนย์ใหญ่ได้ทันทีซึ่งหมายถึงการประเมินผลคะแนนจะสะดวกรวดเร็ว และเป็นมาตรฐานเดียวกันหมด รวมถึงการสมัครสอบ และการรับผลคะแนนแบบออนไลน์นั้นง่ายดายมากขึ้น


TOEFL ทดสอบอะไรบ้าง

TOEFL จะทดสอบภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การพูด (Speaking) การฟัง (Listening) การอ่าน(Reading) และการเขียน (Writing) และในบางครั้งจะต้องผสมผสานทักษะต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อใช้ในการตอบคำถามโดยเน้นการวัดความรู้ทางภาษาอังกฤษในเชิงวิชาการ เพื่อนำความรู้ทางภาษาอังกฤษไปใช้ในการศึกษาต่อในระดับสูงโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่งสำหรับการสอบ โดยแบ่งเนื้อหาเป็น 4 ทักษะ มีรายละเอียดคร่าวๆดังนี้

Readingเป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจของการอ่านในเชิงวิชาการของผู้สอบ โดยผู้สอบต้องตอบคำถามจากบทความ 3 -5 บทความ ในแต่ละบทจะต้องตอบคำถาม 12 – 15 ข้อ ส่วนนี้ต้องทำข้อสอบรวม 39 ข้อ ใช้เวลา 60 นาที ระดับคะแนนจะอยู่ที่ 0-30 คะแนน

Listening
เป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจในการฟังภาษาอังกฤษ ผู้สอบต้องฟังบทสนทนาในประเด็นทั่วไป 2 เรื่อง และสถานการณ์จำลองในห้องเรียน 4 เรื่องต้องตอบคำถามจากสิ่งที่ได้ยินแต่ละบทสนทนา และเล่าเรื่องที่ได้ฟัง โดยส่วนนี้ต้องทำข้อสอบ 35 ข้อใช้เวลา 60 นาที ระดับคะแนนจะอยู่ที่ 0-30 คะแนนข้อสอบแบ่งเป็น

-Academic Lecture 4 เรื่อง /24 ข้อ
-Campus Conversation 2 เรื่อง/10 ข้อ

นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงข้อสอบไปจากเดิมบ้าง เช่น มีการนำสำเนียง Americanมาทดสอบด้วย


Writing
เป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจในการเขียนเชิงวิชาการ โดยผู้สอบต้องแสดงความสามารถในการใช้ภาษา และการคิดวิเคราะห์ การพัฒนาความคิดในประเด็นที่ได้อ่านจากข้อสอบ 2 ข้อใช้เวลา 55 นาทีระดับคะแนนจะอยู่ที่ 0-30 คะแนนข้อสอบแบ่งเป็น


คำถามที่ 1

ผู้สอบจะได้อ่านบทความทางวิชาการในเวลาประมาณ 3 นาที และฟังการบรรยายที่เกี่ยวข้องกับสิ่ง ที่ได้อ่านจากนั้นผู้สอบต้องสรุปบรรยาย หรือแสดงทรรศนะจากสิ่งที่ได้อ่าน และฟัง โดยต้องเขียน 150-220คำในเวลา 25 นาที
คำถามที่ผู้สอบจะได้อ่านประโยคสั้นๆ และตอบคำถามโดยการบรรยาย หรือแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลจากสิ่งที่ได้อ่าน โดยต้องเขียนอย่างน้อย 300 ในเวลา 30 นาที

Speakingเป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจในการพูดภาษาอังกฤษ เนื้อหาเชิงวิชาการ ผู้สอบต้องตอบคำถามด้วยการพูด รวม6ข้อ หลังจากอ่านบทความ และการฟังบรรยายในแต่ละประเด็นข้อสอบใช้เวลา 20นาที ระดับคะแนนจะอยู่ที่ 0-30 คะแนนข้อสอบ โดยแบ่งประเภทของคำถาม ดังนี้

คำถามที่ 1 และ 2
เป็นเรื่องราวที่ผู้สอบคุ้นเคย อาจเป็นประสบการณ์ หรือทัศนะส่วนตัว มีเวลาในการเตรียมตอบคำถาม 15 วินาที และมีเวลาตอบคำถาม 45 วินาที ในแต่ละข้อ


คำถามที่ 3 และ 4
ผู้สอนจะได้อ่านข้อความสั้นๆ ในประเด็นใดประเด็นหนึ่งจากนั้นจะได้ฟังบทสนทนา หรือการบรรยายใน
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบทความนั้นนั้น ผู้สอนต้องตอบคำถามจากสิ่งที่ได้อ่าน และฟัง โดยวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มา
และตอบคำถามที่เหมาะสม ที่เวลาเตรียมตอบคำถาม 30 วินาที และตอบคำถาม 60 วินาทีในแต่ละข้อ

คำถามที่ 5 และ 6
ผู้สอบจะได้ฟังบทสนทนาเพื่อการวิเคราะห์ในเชิงวิชาการ หรือฟังบรรยายทางวิชาการ ผู้สอบต้องตอบคำถามจากสิ่งที่อ่าน และฟัง โดยการวิเคราะห์สรุปข้อมูลที่ได้มา และตอบคำถามที่เหมาะสม มีเวลาเตรียมตัวตอบคำถาม 20 วินาที และมีเวลาตอบคำถาม 60 วินาที ในแต่ละข้อ