วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2563
“หยวนดิจิทัล” จะทำงานร่วมกับ WeChat และ Alipay : ผู้บริหารธนาคารประชาชนจีนกล่าว
ตุลาคม 27, 2020
Mu Changchun หัวหน้าสถาบันวิจัยสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารประชาชนจีน (PBOC) กล่าวว่าเงิน “หยวนดิจิทัล” ที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางจะเข้ากันได้กับกระเป๋าเงินบนมือถือรายใหญ่เช่น WeChat Pay และ Alipay ตามรายงานของ South China Morning Post ระบุว่า Mu ได้กล่าวในระหว่างการประชุมว่าเงินหยวนดิจิทัลจะไม่ได้สร้างมาเพื่อแข่งขันกับ WeChat Pay และ Alipay:
“WeChat และ Alipay คือกระเป๋าเงิน ในขณะที่เงินหยวนดิจิทัลคือเงินที่อยู่ในกระเป๋า”
คำแถลงล่าสุดเหล่านี้ดูเหมือนจะขัดแย้งกับรายงานก่อนหน้านี้จากแหล่งข่าวในท้องถิ่นที่บอกว่าจีนอาจเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลเพื่อเป็นทางเลือกให้กับยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงินทั้งสอง ปัจจุบันเงินหยวนดิจิทัลสามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ผ่านแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินบนมือถือพิเศษ ซึ่งในการประชุม Mu กล่าวว่ากระเป๋าเงินมือถือสำหรับเงินหยวนดิจิทัลเผชิญกับปัญหาการปลอมแปลง โดยระบุว่ามีกระเป๋าเงินหยวนดิจิทัลปลอมเกิดขึ้นมากมายในตลาด และเพื่อลดผลกระทบที่เกิดจากปัญหากระเป๋าเงินปลอม Mu กล่าวว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ธนาคารกลางไปจนถึงผู้ใช้จะต้องใช้ความระมัดระวัง Mu ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าเงินหยวนดิจิทัล ทำงานบนโครงสร้างพื้นฐานแบบ centralized โดยแตกต่างจากสกุลเงินเช่น Libra ของ Facebook และ Bitcoin ( BTC )
อ้างอิง : LINK
Tag : adoption, bank, blockchain, cbdc, china, cryptocurrency, DCEP, news, payment
https://bitcoinaddict.org/2020/10/27/digital-yuan-will-work-with-wechat-and-alipay-says-bank-exec/?fbclid=IwAR10mYL4EJ-tf_Y6CvYnXTOgGyFyXwqcLHtIJ0Fg8C2ra2MVULMEgBVORXQ
วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2563
เผยภาพ “หยวนดิจิทัล” ที่รัฐบาลเซินเจิ้นแจกให้ไปลองใช้ โดยมีคนจีนลงทะเบียนเกือบ 2 ล้านคน
เผยภาพ “หยวนดิจิทัล” ที่รัฐบาลเซินเจิ้นแจกให้ไปลองใช้ โดยมีคนจีนลงทะเบียนเกือบ 2 ล้านคน ตุลาคม 13, 2020 โครงการนำร่องของเงิน “หยวนดิจิทัล” ที่ริเริ่มโดยรัฐบาลเมืองเซินเจิ้นได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยจากรายงานล่าสุดพบว่ามีชาวจีนให้ความสนใจมาร่วมลงทะเบียนกันกว่า 1,193,800 คนในโครงการ “Luohu Digital RMB Red Packet” ซึ่งเป็นโครงการสุ่มแจกหยวนดิจิทัลที่ริเริ่มโดยรัฐบาลเซินเจิ้น โปรแกรมนี้ถูกแจกในรูปแบบของลอตเตอรี ซึ่งจะมีผู้โชคดีทั้งสิ้น 50,000 คนที่จะได้รับสิ่งที่เรียกว่า “ซองแดง” ซึ่งประกอบด้วย 200 หยวนดิจิทัล โดยฌครงการนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อทดสอบเงินหยวนดิจิทัลในระดับที่ใหญ่ขึ้น โดยเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2020 “ซองแดง” ทั้งหมด 50,000 ซอง ได้ถูกจับฉลากและกำลังอยู่ในขั้นตอนการแจกจ่ายให้กับผู้ชนะ เป้าหมายของโครงการนี้คือเพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในภูมิภาค และทำให้เงินหยวนดิจิทัลเข้าใกล้กับผู้คนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผู้โชคดีทั้ง 50,000 คน สามารถนำเงินหยวนดิจิทัลที่ได้รับแจกไปใช้ได้กับร้านค้ามากกว่า 3,300 แห่งจนถึงวันที่ 18 ตุลาคม โดยผู้ใช้สามารถค้นหารายชื่อร้านค้าทั้งหมดได้บน iShenzhen แพลตฟอร์ม อ้างอิง : LINK Tag : china, cryptocurrency, DCEP, news https://bitcoinaddict.org/2020/10/13/almost-2-million-people-applied-for-shenzhens-digital-yuan-red-packets/
วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2563
รัฐบาลเซินเจิ้น ประกาศสุ่มแจก DCEP (หยวนดิจิทัล) รวมกว่า 10 ล้านหยวน ให้กับผู้อยู่อาศัย 50,000 คน
รัฐบาลเซินเจิ้น ประกาศสุ่มแจก DCEP (หยวนดิจิทัล) รวมกว่า 10 ล้านหยวน ให้กับผู้อยู่อาศัย 50,000 คน
“หยวนดิจิทัล” กำลังได้รับการส่งเสริมอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยล่าสุดรัฐบาลเซินเจิ้นประกาศจะสุ่มแจก DCEP รวมกว่า 10 ล้านหยวนให้กับผู้อยู่อาศัย 50,000 คน
กิจกรรมดังกล่าวเป็นการสุ่มแจกซองแดงมูลค่ารวมกว่า 10 ล้านหยวนดิจิทัล โดยแต่ละซองแดงจะมีมูลค่า 200 หยวนดิจิทัล และมีจำนวนซองแดงทั้งสิ้น 50,000 ซอง
บุคคลที่อยู่ในเซินเจิ้นสามารถลงทะเบียนเพื่อลุ้นรางวัลได้ผ่านทางแพลตฟอร์ม “iShenzhen”
ในการสมัครเข้าร่วมกิจกรรม ประชาชนต้องกรอกชื่อส่วนตัว บัตรประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ขณะที่หน้าการลงทะเบียนยังแสดงชื่อของธนาคารของรัฐ 4 แห่ง ได้แก่ China Construction Bank, People’s Bank, Industrial and Commercial Bank และ Agricultural Bank
รัฐบาลจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีในช่วงกลางเดือนนี้ จากนั้นจะมีติดตามรายละเอียดการใช้กระเป๋าเงิน DCEP ต่อไป
เงินรางวัลสามารถนำใช้ได้ที่ร้านค้า 3,389 แห่ง ที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบเพื่อรองรับหยวนดิจิทัล ในเขต Luohu ตั้งแต่เวลาวันที่ 12 ตุลาคมถึงวันที่ 18 ตุลาคม
ข้อจำกัดกิจกรรมนี้มี 2 ข้อคือ : 1. ผู้ใช้ต้องลงทะเบียนกระเป๋าสตางค์ในธนาคารที่กำหนด 2. ผู้ใช้ต้องใช้จ่ายเฉพาะในร้านค้าที่รองรับเท่านั้น
เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางจีนเพิ่งเผยว่ามีการทำธุรกรรมในสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง “หยวนดิจิตทัล” ไปแล้วกว่า 3.13 ล้านรายการ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1.1 พันล้านหยวน (162 ล้านดอลลาร์) จนถึงขณะนี้ เปิดเผยโดยรองผู้ว่าการธนาคารประชาชนของจีน นอกจากนี้ยังมีการสร้างกระเป๋าเงินไปแล้วมากกว่า 122,000 wallet
Tag : china, cryptocurrency, DCEP, news, payment
https://bitcoinaddict.org/2020/10/09/shenzhen-government-announce-10-million-dcep-digital-yuan-to-50000-residents/
https://bitcoinaddict.org/2020/10/09/shenzhen-government-announce-10-million-dcep-digital-yuan-to-50000-residents/
https://bitcoinaddict.org/2020/10/09/shenzhen-government-announce-10-million-dcep-digital-yuan-to-50000-residents/
วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2563
กระเป๋าเงิน “หยวนดิจิทัล” ถูกสร้างไปแล้วกว่า 122,000 wallet และมีการทำธุรกรรมไปแล้วกว่า 3.13 ล้านรายการ
กระเป๋าเงิน “หยวนดิจิทัล” ถูกสร้างไปแล้วกว่า 122,000 wallet และมีการทำธุรกรรมไปแล้วกว่า 3.13 ล้านรายการ
มีการทำธุรกรรมในสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางจีน “หยวนดิจิตทัล” ไปแล้วกว่า 3.13 ล้านรายการ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1.1 พันล้านหยวน (162 ล้านดอลลาร์) จนถึงขณะนี้ เปิดเผยโดยรองผู้ว่าการธนาคารประชาชนของจีน นอกจากนี้ยังมีการสร้างกระเป๋าเงินไปแล้วมากกว่า 122,000 wallet
ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) กำลังทดสอบสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) อย่างจริงจัง โดยรองผู้ว่าการ PBOC Fan Yifei ได้อัปเดตความคืบหน้าของการทดสอบเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รายงานจาก South China Morning Post
โครงการนำร่องมี “ความก้าวหน้าในเชิงบวก”อย่างมาก โดยรองผู้ว่าการกล่าวว่ามีธุรกรรม 3.13 ล้านรายการ มูลค่า 1.1 พันล้านหยวนได้รับการประมวลผลโดยใช้สกุลเงินดิจิทัล ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา โดยสกุลเงินดิจิทัลได้อำนวยความสะดวกในการใช้งานมากกว่า 6,700 กรณี ตั้งแต่การชำระบิล , การขนส่ง ไปจนถึงบริการของรัฐบาล โดย Fan อธิบายรายละเอียดว่ามีการใช้วิธีการชำระเงินหลายวิธีรวมถึงบาร์โค้ด , การจดจำใบหน้า และการทำธุรกรรมแบบ tap-and-go
Fan ยังกล่าวอีกว่า ผู้ใช้ได้สร้างกระเป๋าเงินดิจิทัลส่วนตัวไปแล้วมากกว่า 113,300 wallet และกระเป๋าเงินดิจิทัลสำหรับองค์กรประมาณ 8,800 wallet โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่อง นอกจากนี้ รองผู้ว่ายังอธิบายว่ารัฐบาลเซินเจิ้นได้ใช้เงินหยวนดิจิทัลเพื่อตอบแทนบุคลากรทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพประมาณ 5,000 คนที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย COVID -19
ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนได้อธิบายว่า ผู้ทดลองใช้เงินหยวนดิจิทัลหรือที่เรียกว่า Digital Currency Electronic Payment (DC / EP)“ สามารถใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อ เติมเงินในบัญชี , ถอนเงิน , ชำระเงิน , และโอนเงิน หลังจากลงทะเบียนด้วยหมายเลขโทรศัพท์มือถือของพวกเขา
อ้างอิง : LINK
https://bitcoinaddict.org/2020/10/08/china-digital-currency-3-million-transactions-billion-yuan/
วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2563
"วันหนึ่ง..ทุกคนในโลกจะใช้เงินหยวนดิจิทัล (DCEP)” Chandler Guo ผู้บุกเบิกด้าน Cryptocurrency กล่าว
"วันหนึ่ง..ทุกคนในโลกจะใช้เงินหยวนดิจิทัล (DCEP)” Chandler Guo ผู้บุกเบิกด้าน Cryptocurrency กล่าว
Chandler Guo ผู้บุกเบิก Cryptocurrency กล่าวว่า “เงินหยวนดิจิทัล“(DCEP) ที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางของจีนจะกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลกในอนาคต
Guo ซึ่งก่อตั้งเหมืองขุด bitcoin เป็นครั้งแรกในปี 2014 ในจีนคาดการณ์ว่า digital currency electronic payment (DCEP) หรือหยวนดิจิทัลของประเทศจะกลายเป็นสกุลเงินที่โดดเด่น โดยเขากล่าวว่า “วันหนึ่ง ทุกคนในโลกจะใช้งาน DCEP”
เขากล่าวต่อว่า เงินหยวนดิจิทัลของจีนจะประสบความสำเร็จในหมู่พลเมือง 39 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ โดยเขาอ้างว่าการที่มีคนจีนอยู่ทั่วโลกจะเปลี่ยน DCEP ให้เป็นสกุลเงินระหว่างประเทศโดยการทำธุรกรรมกับแผ่นดินใหญ่
แม้จะมองโลกในแง่ดี แต่คนอื่น ๆ ก็กังวลว่าทางการจีนจะใช้สกุลเงินนี้เพื่อทำลายการครอบงำของดอลลาร์
รัฐบาลจีนเชื่อว่าหากประเทศอื่น ๆ สามารถใช้สกุลเงินจีนได้ มันจะสามารถทำลายอธิปไตยทางการเงินของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสหรัฐอเมริกาได้สร้างระบบการเงินไปทั่วโลกในปัจจุบัน
อ้างอิง : LINK
https://bitcoinaddict.org/2020/09/28/everyone-will-use-chinas-digital-currency-says-bitcoin-and-ether-startup-investor/
วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2563
ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) มองว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็น ‘สนามรบแห่งใหม่’ ในการเงินระดับโลก
ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเดิมพันของการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางของประเทศ
บทความที่ตีพิมพ์ใน PBOC การเงินสุดสัปดาห์นี้เป็นที่ถกเถียงกันว่าปักกิ่งควรเร่งความเร็ว ของการพัฒนา Cbdc ในการแข่งขันระดับโลก โดยบทความดังกล่าวระบุว่าจีนควรคว้าความได้เปรียบจากการเป็นผู้นำรายแรกในเวทีของสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งมีลักษณะเป็น “สนามรบใหม่” ของการแข่งขันระหว่างประเทศ
บทความดังกล่าวอ้างว่า นี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่อสถานะในการเงินระหว่างประเทศและโอกาสที่จะทำลายความเป็นเจ้าโลกของดอลลาร์และทำให้เงินหยวนเป็นสากล
รวมไปถึงสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดย PBoC จะเป็นประโยชน์ต่อนโยบายการเงินของประเทศซึ่งมีความสำคัญมากขึ้นหลังการแพร่ระบาดซึ่งเต็มไปด้วยความท้าทายทางเศรษฐกิจ
ในเดือนสิงหาคม ปักกิ่งได้ประกาศทดลองใช้เงินหยวนดิจิทัลในเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กวางโจวและฮ่องกง ซึ่งเกี่ยวข้องกับประชากร 400 ล้านคนหรือประมาณ 29% ของประชากรทั้งประเทศ
PBOC ยังวางแผนที่จะใช้ดิจิตอลหยวนในปี 2022 ที่กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว และนอกเหนือจากการแข่งขันด้านสกุลเงินดิจิทัลแล้ว ทั้งจีนและสหรัฐอเมริกาต่างให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาบล็อกเชนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
อ้างอิง : LINK
https://bitcoinaddict.org/2020/09/21/beijing-sees-digital-currencies-as-new-battlefield-in-global-finance/
วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2563
เทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวเตอร์จะมาทำลาย Bitcoin หรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญมีคำตอบ
เทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวเตอร์จะมาทำลาย Bitcoin หรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญมีคำตอบ
สิงหาคม 24, 2020
นักวิทยาศาสตร์ด้านควอนตัมรายหนึ่งกำลังศึกษาความเป็นไปได้ถึงผลกระทบต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมต่อระบบการเข้ารหัส (cryptography) และ cryptocurrency ในขณะนี้
โดยอ้างอิงจากวีดีโอบน Youtube ตัวหนึ่งได้มีนักวิทยาศาสตร์ควอนตัมรายหนึ่งนามว่า Anastasia Marchenkova ที่ได้ออกมาแบ่งปันความเห็นของเธอเกี่ยวกับการแข่งขันและการพัฒนาเพื่อทำลายเทคโนโลยีการเข้ารหัสด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัม
“อัลกอริทึมของ Shor (ควอนตัม) สามารถที่จะทำลาย RSA และ elliptic curve cryptography ที่ถือเป็นปัญหาอย่างมากเนื่องจากว่าข้อมูลของเราในทุกวันนี้ถูกเข้ารหัสด้วยอัลกอริทึ่มสองตัวดังกล่าวนั้น แต่เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมนั้นก็ไม่ได้รวดเร็วไปสำหรับทุกอย่าง แต่มันเร็วขึ้นในการแก้ไขปัญหาบางส่วน และนั่นดูเหมือนว่าจะเป็น RSA และ elliptic curve encryption
แต่มันก็ยังมีอัลกอริทึ่มการเข้ารหัสในแบบอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม และพวกเราจำเป็นที่จะต้องค้นหามัน และก็นำมันไปใช้งานจริง ก่อนที่เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาดที่ใหญ่กว่านี้จะถูกสร้างขึ้นมา การทำลายการเข้ารหัสนั้นจำเป็นที่จะต้องมี qubit เป็นจำนวนมหาศาลอย่างมาก ศึ่งอยู่ที่ประมาณ 10 ล้าน qubit โดยประมาณ แต่มันถือเป็นหนึ่งในการค้นพบว่าสิ่งที่เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถทำได้นั้นมีอะไรบ้าง
เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมนำเอาพลังจาก quantum properties มาเพื่อใช้สุ่มตัวเลขให้เร็วมากขึ้นกว่าเดิม และนั่นถือเป็นส่วนประกอบหลักของเทคโนโลยีที่ที่อยู่เบื้องหลังการเข้ารหัสแบบ RSA ท้ายสุดนี้ก็คือข้อมูลส่วนตัวของเรานั้นจะไม่มีความปลอดภัยอีกต่อไปหากเรามีเครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีขนาดใหญ่มากกว่านี้ ดังนั้นพวกเราจึงต้องทำอะไรกับมันสักอย่าง”
เมื่อไม่นานมานี้คอมพิวเตอร์ควอนตัมดูเหมือนว่าจะกลายมาเป็นข่าวใหญ่หน้าหนึ่งทั่วโลก เนื่องจากหลายคนกลัวว่ามันจะมาเป็นภัยคุกคามต่อระบบการเข้ารหัส ที่ถือเป็นหัวใจหลักสำคัญของเหรียญ cryptocurrency และก็อินเตอร์เน็ทในตอนนี้ เครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัมนั้นมีความสามารถในการเจาะรหัสและแก้ไขสมการตัวเลขที่มีความซับซ้อน เนื่องจากว่าตัว qubit หรือ quantum bit สามารถที่จะนำมาใช้เพื่ออยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า “superimposition” ด้วยการทำงานในสอง state ในเวลาเดียวกันได้
แต่ในขณะเดียวกันนาง Marchenkova นั้นไม่คิดว่าผู้ถือเหรียญคริปโตนั้นจำเป็นที่จะต้องเคลื่อนย้าย Bitcoin ของพวกเขาไปยัง wallet ที่ปลอดภัยจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมในทันที แต่เธอเชื่อว่าใครก็ตามที่ถือเหรียญคริปโตอยู่ควรที่จะเริ่มศึกษาและอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีดังกล่าวได้แล้ว เนื่องจากว่าสักวันหนึ่ง blockchain มีความจำเป็นที่จะต้องถูกอัพเกรดให้สามารถปกป้องตัวเองต่อการมาของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัมได้“ใช่ คุณควรที่จะกังวล แต่ไม่ใช่ตอนนี้ คุณยังไม่จำเป็นที่จะต้องเคลื่อนย้าย Bitcoin ของคุณในวันนี้ ไปยัง wallet ที่ทนทานต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัม แต่คำถามก็คือ เราจะอัพเกรด blockchain ได้อย่างไร
เราสามารถที่จะ fork มันได้ และเดินไปข้างหน้าต่อ ทุกอย่างจะเป็นไปโดยปกติ หากเราสามารถที่จะหาอัลกอริทึ่มที่ปลอดภัยต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ควอนตัม แต่คำถามก็คือพวกเราจำทำอย่างไรต่อเหรียญเก่า หรือเหรียญที่สูญเสีย private key ไปแล้ว พวกเราจะกล่าวว่า ‘ขอโทษนะ บาย ตอนนี้ส่วนนี้ของ chain จะไม่สามารถใช้งานได้แล้ว จนกว่าคุณทำการเคลื่อนย้ายมัน หรือเข้ารหัสมันใหม่’ หรือเราจะค้นหาเทคโนโลยีใหม่ล่ะ?”